สิงคโปร์ เจอนี่ เจอนั่น (ตอนจบ ^^)

Singapore Botanic Gardens
เมื่อคราวที่แล้วที่มาสิงคโปร์ ด้วยเวลาที่มีจำกัด เราเลยไม่ได้ใส่ Singapore Botanic Gardens ไว้ในแผนการเดินทาง แต่ในครั้งนั้นบังเอิญได้มีโอกาสนั่งรถผ่านหน้าสวน เล็กเห็นแล้วชอบมาก (ขนาดว่าเห็นแต่ข้างนอกนะ ^^) จนต้องบอกคุณก๊อกว่า คราวนี้ยังไงก็ต้องขอแวะชมซักหน่อยนะ20140914-IMG_3133

เราไม่มีข้อมูลมากนักว่าสวนนี้เป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง เดาเอาจากชื่อก็คิดว่าน่าจะเป็นสวนพฤษศาสตร์ที่มีต้นไม้่เยอะแยะมากมายกระมัง เราเดินทางเข้าสวนทาง Nassim Gate (Evans Rd.) ซึ่งอยู่ตรงกลางสวน (สวนนี้กว้างใหญ่มากค่ะ มีทางเข้าหลายทาง ต้องเลือกเอาซักทาง ^^’) ส่วนแรกที่เราเจอก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ที่จัดวางได้อย่างสวยงาม ดูช่างรื่นรมย์มากๆ เล็กเข้าไปก็มองหาเคาน์เตอร์ขายตั๋วโดยรอบแต่ไม่เห็น เลยถามจากน้องสาวที่ไปด้วยกันวันนั้น ได้ความว่า สวน Singapore Botanic Gardens เป็นเหมือนสวนสาธารณะของที่นี่ ใครจะเข้ามาเดินเล่น จูงสุนัขมาวิ่ง มาปิคนิค มานอนเอกเขนก ก็ได้ทั้งนั้น สวนเปิดตั้งแต่เช้ามืดปิดเอาเที่ยงคืนเลย >.< ฟังแล้วต้องร้องโอ้โฮออกมาเลยค่ะ เพราะสวนที่เห็นอยู่ตรงหน้ามีการออกแบบและจัดวางอย่างสวยงาม ร่มรื่น สะอาดสะอ้าน มีต้นไม้ใหญ่มากมาย แถมยังกว้างขวางมากๆ คือ…มันช่างต่างกับสวนสาธารณะบ้านเราเหลือเกิน20140914-IMG_312720140914-IMG_3174
เดินดูแล้วก็นึกถึงการพัฒนาผังเมืองที่เราได้เห็นที่ City Gallery เมื่อ 2 วันก่อน ประกอบกับประสบการณ์การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ในทริปนี้ที่เราใช้แท๊กซี่ค่อนข้างบ่อย จึงทำให้มีโอกาสได้เห็นถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่อง และทำให้เรารู้สึกทึ่งมากที่ประเทศเล็กๆ ที่มีพื้นที่อย่างจำกัด จะสามารถพัฒนาพื้นที่ทางธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมๆ กับพื้นที่สีเขียวได้อย่างเรียกว่าไม่มีใครน้อยหน้าใครจริงๆ

20140914-IMG_3172

เนินหญ้าเขียวๆ กว้างไกล เห็นแล้วอดใจไม่ไหวต้องแวะลงไปวิ่งเล่น กลิ้งเกลือก กันซะหน่อย20140917-Singapore_p6-2

ความที่สวนนี้กว้างใหญ่ และเรามีเวลาจำกัด เราจึงเลือกเข้าชมสวนกล้วยไม้ (National Orchid Garden) ซึ่งปกติโซนนี้จะต้องเสียค่าเข้าชม แต่ช่วงเวลาที่เราเป็นช่วงที่เป็นวันหยุดของโรงเรียนในสิงคโปร์ เขาจึงเปิดให้เข้าชมฟรี (ดีจังเลยเนอะ ^^) นอกเหนือจากความสวยงามของกล้วยไม้นานาพันธ์ุแล้ว ก็ยังพันธ์ุไม้ใบสวยๆ ให้ดูมากมายตลอดทางที่เดินไป เรียกว่าถ้าค่อยๆ ดูพินิจกันทีละต้น ก็คงต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เลยค่ะ จุดที่น้องภูมิและพวกเราชอบมากที่สุด ก็คือ Cool House เรือนกระจกที่ควบคุมความเย็นและความชื้น เพื่อให้เป็นที่จัดแสดงพันธ์ุไม้ที่อยู่บนภูเขา มีทั้งกล้วยไม้ และพืชกินแมลงหลายชนิด อากาศภายในทั้งเย็นและสดชื่นมากๆ ค่ะ เดินเข้าไปแล้วอยากอยู่นานๆ เลย :)20140914-IMG_320820140917-Singapore_p6-320140914-IMG_322420140917-Singapore_p6-1

เราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารน่ารักๆ ท่ามกลางสวนสวย อาหารอร่อย บรรยากาศเก๋ไก๋ (ราคาก็เก๋ไก๋ตามบรรยากาศ ^^’) จนลืมไปเลยว่าตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะ ^^20140914-IMG_321620140917-Singapore_p6-420140914-IMG_3264

เราเดินกลับออกจากสวน ด้วยเส้นทางที่เลาะไปทางทิศใต้ของสวน ผ่าน Swan Lake ซึ่งมีหงส์จริงๆ เล่นน้ำให้นั่งดูเพลินๆ นอกเหนือจากหงส์แล้ว ในน้ำก็ยังมีปลาตัวโตๆ มากมายหลายชนิดและเต่าให้ดูอีกด้วย น้ำใส เด็กน้อยดูเพลินเลยค่ะ ตลอดเส้นทางที่เราเดินร่มรื่นมากๆ เพราะมีต้นไม้ใหญ่เรียงรายอยู่ตลอดทาง และแม้จะมีคนมาพักผ่อนในสวนเป็นจำนวนมากในวันนี้ (วันอาทิตย์) แต่สวนก็ยังดูโล่ง โปร่ง สบาย เห็นแล้วก็อยากเอาเสื่อมาปูนอนเล่นบ้างจัง :)20140914-IMG_3229-220140914-IMG_3250

เรื่องเล่าปิดท้ายจากทริปนี้ เล็กขอเล่าเรื่องความเป็นเมืองสีเขียวของสิงคโปร์ที่เราได้มีโอกาสสัมผัสนะคะ ทริปนี้เราเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองด้วยแท๊กซี่ (คราวที่แล้วใช้ MRT) จึงได้มีโอกาสเห็นถนนเส้นที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งที่พวกเราเคยเห็นมา (ถนนเลียบชายฝั่งด้านตะวันออก – East Coast) ช่างเป็นการต้อนรับเข้าสู่ประเทศที่อบอุ่นและสง่างามมากๆ ถนนที่ว่านี้ไม่ได้มีป้ายหรือซุ้มประตูยินดีต้อนรับเข้าประเทศ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างประดับประดาหรือเสาไฟฟ้าวิจิตรอลังการ มีเพียงต้นไม้สูงใหญ่ยืนเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง ระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร ต้นไม้สูงใหญ่รูปร่างสวยงามอายุไม่น่าจะต่ำว่า 30 ปี แผ่กิ่งก้านบานปกคลุมถนน ให้ความร่มรื่น สดชื่นสบายตา ทำเอาเราต้องร้องอู้หูกันไปตลอดทาง สวยจนบรรยายไม่ถูกจริงๆ ค่ะ

จากข้อมูลที่ได้อ่านที่ Singapore City Gallery ทำให้เราทราบว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับต้นไม้มาก ต้นไม้ใหญ่ทุกต้นของสิงค์โปร์จะมีการขึ้นทะเบียน และห้ามตัดโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้ว่าจะเป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินส่วนบุคคลก็ตาม

เล็กบอกกับลูกว่า “คอยดูนะ เมื่อภูมิโตเป็นหนุ่ม ต้นไม้ก็คงจะโค้งเป็นซุ้มสวยงาม และถนนแบบนี้แหละจะเป็นถนนที่ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวชม”

คุณก๊อกเก็บภาพและวีดีโอตอนขากลับมาฝากนะคะ ใครที่จะมาเที่ยวที่สิงคโปร์ เล็กแนะนำว่าควรใช้แท๊กซี่ในเส้นทางที่ไปสนามบิน อย่างน้อยซักครั้ง ขาไปหรือขากลับก็ได้ เพื่อชื่นชมด้วยตาตัวเองดูนะคะ

สิงคโปร์ เจอนี่ เจอนั่น (ตอนที่ 1)

ตอนที่ 1 : ก่อนออกเดินทาง

ครั้งนี้เป็นการพาลูกเดินทางไปสิงค์โปร์เป็นครั้งที่สองของครอบครัวเรา (อ่านบันทึกของทริปแรกได้ที่นี่นะครับ) สิ่งที่เราวางแผนและมองหาจากการเดินทางจึงแตกต่างจากครั้งแรก ตามวัยที่เติบโตขึ้นของน้องภูมิ นอกเหนือจากการไปเที่ยวสนุกแล้ว เราตั้งใจและอยากให้ทริปนี้เป็นห้องเรียนวิชา “โลกใบนี้มีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะ” ไปพร้อมๆ กับเป็นก้าวแรกของการเป็นนักเดินทางจริงๆ เพราะแม้ว่าน้องภูมิจะมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศกับพ่อแม่มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการเดินทางเลย
20140805-IMG_0356

สิงคโปร์ คือประเทศที่เราชอบที่จะพาลูกไป เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน มีความปลอดภัยสูง การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสะดวก บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อย ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร มีสถานที่ที่เราสามารถเรียนรู้และสนุกไปพร้อมๆ กันได้ทั้งครอบครัว และมีความสมดุลของความเจริญและพื้นที่สีเขียว (ข้อสุดท้าย พ่อกับแม่ชอบเป็นพิเศษ ^^) เป็นประเทศที่เรารู้สึกว่าสิ่งที่ได้มาค่อนข้างคุ้มกับเงินในกระเป๋าที่เสียไป20140917-Singapore-1-3

และครั้งนี้จะพิเศษกว่าที่เคย เพราะเราจะมีน้องภูริตัวน้อยติดตามพวกเราไปเรียนรู้โลกกว้างด้วย เพื่อให้การเดินทางของเราราบรื่นและเจ้าหนูมีความสุขตลอดการเดินทาง กระเป๋าเป้ใบใหญ่ของผมเลยมีของภูริสารพัด (มากกว่าของคนอื่นๆ) ทั้งอาหารแห้ง ขนม ของเล่น ผ้าอ้อม เสื้อผ้า ฯลฯ
20140909-IMG_1606

บทเรียนแรกของการเป็นนักเดินทางของน้องภูมิคือ การวางแผนการเดินทาง

เราเตรียมตัวก่อนออกเดินทางประมาณ 2-3 สัปดาห์ เริ่มจากการหาข้อมูลเรื่องสถานที่เราทุกคนสนใจจากอินเทอร์เน็ตและขอแผนที่พร้อมข้อมูลอื่นๆ ที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์ประจำประเทศไทย (อาคารสาทรสแควร์) ผมกับน้องภูมิช่วยกันดูตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ วางแผนเวลาแต่ละวันจากข้อมูลเรื่องเวลาเปิด-ปิดของแต่ละที่ คิดเรื่องรูปแบบการเดินทาง เช็คสภาพอากาศ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง20140820-IMG_0832-2

น้องภูมิได้เรียนรู้เรื่องการดูแผนที่ ดูทิศ การประมาณระยะทาง ทำความคุ้นเคยกับข้อมูลถนนหนทาง (มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างเดินทางกลับโรงแรม น้องภูมิได้พยายามบอกทางคนขับแท๊กซี่ และบอกถูกเสียด้วย ^^)

ป้อนข้อมูล ปูทางสู่ความเข้าใจ

นอกเหนือจากการวางแผนการเดินทางแล้ว เนื้อหาของบทเรียนที่บ้านเรียนของเราก็ถูกปรับให้สอดคล้องกับการเดินทางที่จะมาถึงด้วย เช่น การทำความรู้จักประเทศสิงคโปร์กันทั้งเรื่องขนาดพื้นที่ ภูมิประเทศ ภาษา ประชากร เวลา สกุลเงิน กฏหมายพื้นฐานที่น่าสนใจ ฯลฯ รวมทั้งความรู้รอบตัวที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าความรู้เหล่านี้จะช่วยให้เค้ามองเห็นความแตกต่างและเกิดความเข้าใจในสิ่งที่เค้าจะได้เห็นจริงๆ เวลาเดินทาง20140917-Singapore-1-8

บทเรียนประจำวันที่แม่เล็กสอนน้องภูมิก็ปรับไปตามสถานที่ที่จะไปด้วย เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ในลุ่มน้ำอะมเซอนที่เราอาจจะได้ไปเจอที่ River Safari และเรื่องอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เพื่อเตรียมตัวไปดูนิทรรศการ Human Body Experience ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ (Science Center) ของสิงคโปร์ เป็นต้น
20140907-IMG_157920140905-IMG_1530-2

ถึงเวลาจัดกระเป๋า..

ครั้งนี้น้องภูมิจะมีเป้สะพายหลังของตัวเองที่ต้องดูแล มีของทั้งหมดที่เค้าจะต้องใช้ ต้องทำ check list และตัดสินใจเองว่าจะเอาอะไรไปหรือไม่เอาอะไร จากข้อมูลที่เราอ่านเจอ เด็กอายุประมาณน้องภูมิไม่ควรแบกเป้ที่มีน้ำหนักเกิน 10% ของน้ำหนักตัว วันสุดท้ายก่อนไป น้ำหนักเป้น้องภูมิอยู่ 1.1 กก. (ประมาณ 5%)

20140908-IMG_1594

ช่วง 3-4 วันก่อนวันเดินทาง เรารู้สึกได้เลยว่าน้องภูมิตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้มาก นั่งนับวันถอยหลังวันละหลายๆ ครั้ง ^^ เราเองก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นลูกในห้องเรียนห้องใหญ่นี้ไม่แพ้กัน

20140917-Singapore-1-5

ด้านล่างคือสถานที่ที่เราไปกันในทริป 5 วันนี้นะครับ

วันที่ 1 (ช่วงบ่าย)
• ไปชื่นชม Gardens by the bay โครงการใหญ่ยักษ์ที่ต้องการจะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนเมือง
• นั่ง Singapore Flyer ดูวิวกลางคืนของเมือง

วันที่ 2
• ตามหา Tintin ที่ Tintin shop
• ไปดูเค้าวางแผนพัฒนาเมืองที่ Singapore City Gallery
River Safari Singapore

วันที่ 3
Cable car
Skyline Luge Sentosa ที่สนุกสมสโลแกนของเค้าที่ว่า “Once is never enough.”
• ไปเล่นน้ำที่สวนน้ำ Adventure Cove Waterpark

วันที่ 4
Science Centre Singapore  ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยมีเวลาพอ
Snow City ที่อุณหภูมิ -10 ℃
• ไปดูหนังสือที่ Kinokuniya สาขา Takashimaya Shopping Centre ที่เคยครองอันดับร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia นานถึง 10 ปี

วันที่ 5
Singapore Botanic Gardens
• เดินเล่นที่ถนน Orchard

แล้วจะรีบหาเวลามาเขียนถึงรายละเอียดของที่ต่างๆ ให้อ่านกันต่อนะครับ :)