Cast member …ผู้อยู่เบื้องหลังความสุขในดิสนีย์แลนด์

เมื่อภูมิรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์อีกครั้ง ความตื่นเต้นดีใจที่จะได้สนุกกับเครื่องเล่นต่างๆ ก็ทำให้เขาอยากเร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันเดินทางเร็วๆ ภูมิเริ่มวางแผนว่าจะเล่นเครื่องเล่นอะไรบ้าง จะทำอะไรบ้าง และยังชวนน้องภูริคุยถึงดิสนีย์แลนด์แทบทุกวัน (น้องภูริไม่ได้รู้เรื่องอะไรสักเท่าไหร่ครับ คราวที่แล้วที่ไปก็เพิ่งจะได้ขวบนิดๆ จำอะไรไม่ได้เลย ^^’) 

แม่เล็กกับผมฟังมากๆ ก็อดขำไม่ได้ แต่ก็ทำให้รู้ว่าเด็กๆ จะสนุกและมีความสุขกับทริปนี้แน่นอน

ปีนี้น้องภูมิอายุ 8 ขวบ เขาเริ่มมีความสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัวแบบที่เป็นความสนใจจริงๆ ทำให้ผมคิดว่าถ้าเขาได้รู้จักดิสนีย์แลนด์ในมุมอื่นๆ บ้างก็น่าจะทำให้เขามองเห็นอะไรๆ มากขึ้น และเก็บเกี่ยวอะไรๆ ไปได้มากกว่าความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว

ผมนึกถึงหนังสือที่เคยอ่านเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ชื่อว่า ‘สิ่งที่ดิสนีย์แลนด์สอนฉัน’ ที่เขียนเป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของพนักงานทำความสะอาดรอบดึกคนแรกของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ จนกระทั่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการศึกษา อบรมพนักงานทั้งหมดดิสนีย์ ยูนิเวอร์ซิตี้

คุณฮิโรชิ คามาตะ (ผู้เขียน) เล่าเรื่องราวการเรียนรู้ของแคสท์*เกี่ยวกับการรับรองที่เกินคาดเพื่อให้เกสท์*ได้รับประสบการณ์ที่ดี และมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาเยือนดิสนีย์แลนด์ ผมจำได้ว่าเรื่องเล่าทุกเรื่องในหนังสือทำให้ผมรู้สึกทึ่งในความใส่ใจของแคสท์ที่ดิสนีย์แลนด์จริงๆ จนอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

*ดิสนีย์แลนด์เรียกพนักงานทุกคน รวมถึงพนักงานพาร์ตไทม์ว่า ‘แคสท์ (Cast)’ และเรียกลูกค้าว่าเกสท์ (Guest)

เราใช้เวลาตามหาหนังสือเล่มนี้นานสักหน่อย เพราะพิมพ์มาหลายปีแล้ว แต่สุดท้ายก็ได้มา :)

ภูมิกับแม่เล็กใช้เวลาอ่านหนังสือ ‘สิ่งที่ดิสนีย์แลนด์สอนฉัน’ ด้วยกันประมาณสัปดาห์กว่าๆ ภูมิกับแม่สลับกันอ่านให้อีกคนฟัง เพราะบางเรื่องมีความซับซ้อนเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึกของตัวละครที่แม่ต้องอธิบายให้ภูมิเข้าใจ

“ภูมิอยากเป็นแคสท์ที่ดิสนีย์แลนด์จังเลยแม่” คือสิ่งที่ภูมิบอกแม่ทันทีหลังจากที่อ่านบทแรกจบ

20160917-_mg_0122

เราไปดิสนีย์แลนด์ภูมิก็จะได้เจอพี่ๆ ที่เป็นแคสท์ตัวจริงนี่นา ทำไมลูกไม่ลองคุยกับพวกเขาดูล่ะ ภูมิมีอะไรที่อยากรู้เกี่ยวกับการเป็นแคสท์ก็ลองเขียนคำถามไว้ก่อน ถ้าไปถึงแล้วมีโอกาสได้คุยกับแคสท์ซักคนเราอาจจะขอสัมภาษณ์เขาสั้นๆ ดีไม๊” แม่เล็กลองเสนอ

ภูมิพยักหน้าเห็นด้วยและดูจะตื่นเต้นที่ได้ยินว่าจะได้คุยกับแคสท์จริงๆ 

ภูมิจดคำถามที่อยากจะถามแคสท์เอาไว้ในสมุดบันทึกของตัวเอง 7 ข้อ และตั้งใจว่าจะหยิบหนังสือ‘สิ่งที่ดิสนีย์แลนด์สอนฉัน’ ไปให้แคสท์ที่ดิสนีย์แลนด์ดูด้วย แต่ผมรู้ว่าเราต้องเดินกันเยอะจึงอยากให้เขามีสัมภาระเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ก็เลยบอกภูมิว่าไม่ต้องเอาไปดีกว่า

ในวันแรกที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เราได้พบกับคุณวิง (Ms. Wing) เจ้าหน้าที่ที่จะดูแลเราในทริปนี้ และผมบอกน้องภูมิว่า ถ้ายังอยากสัมภาษณ์แคสท์ก็ลองบอกคุณวิงดูนะ เผื่อเธอจะแนะนำอะไรได้บ้าง หลังจากภูมิเข้าไปบอก คุณวิงทำหน้าสงสัยว่าทำไมภูมิถึงอยากสัมภาษณ์แคสท์ ภูมิเลยต้องเล่าเรื่องหนังสือที่อ่านมาให้ฟังและหยิบสมุดบันทึกให้คุณวิงดู

คุณวิงยิ้มกว้างและขอถ่ายรูปสมุดบันทึกของภูมิไว้ แต่ก็บอกเพียงว่าจะลองถามให้

เมื่อไปถึงสวนสนุกในช่วงบ่ายคล้อยเย็นวันเดียวกัน เราได้พบกับคุณโจอี้ (Mrs. Joey) ผู้ดูแลงานด้านการตลาดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เธอขอคุยกับภูมิและขอดูสมุดบันทึก เราได้คุยกันถึงเรื่องหนังสือที่ภูมิอ่านซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ภูมิอยากเป็นแคสท์บ้าง คุณโจอี้ก็ยิ้มให้ภูมิด้วยความเอ็นดู แล้วบอกว่า เธอนึกถึงคนพิเศษคนหนึ่งที่น่าจะตอบคำถามภูมิได้ดีที่สุดเลย ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอเอง เธอจะลองติดต่อให้และจะบอกอีกทีว่าสามารถนัดให้ได้มั๊ย …ภูมิดูไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะตอนนี้ใจไปอยู่ที่เครื่องเล่นแล้ว :)

20160920-_mg_0473

ก่อนนอนคืนนั้นเราได้รับข้อความจากลุงเด้งว่า คุณโจอี้นัดคุณอาเธอร์ เลา (Mr.Arthu Lau) อดีต Hong Kong Disneyland Ambassador เมื่อปี 2013-2014 ไว้ให้แล้ว แถมแนบลิงก์ประวัติของคุณอาเธอร์มาให้ได้ชื่นชมล่วงหน้า พร้อมกับข้อความจากคุณโจอี้ที่ทิ้งท้ายไว้ว่า “คุณอาเธอร์มีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องอยากจะเล่าภูมิให้ฟัง”

เวลานั้นน้องภูมิหลับปุ๋ยไปแล้ว ปล่อยให้แม่กับพ่อตื่นเต้นกันอยู่สองคน :)

เราบอกน้องภูมิเกี่ยวกับคุณอาเธอร์ในตอนเช้า และเปิดประวัติการทำงานของคุณอาเธอร์ให้ภูมิอ่านแบบออกเสียงเพื่อแม่กับพ่อจะได้ฟังด้วย :D มีหลายตอนในบทความที่ทำให้พวกเราตื่นเต้นและเห็นด้วยกับคุณโจอี้ที่ว่า เขาเป็นคนที่น่าจะตอบคำถามของภูมิได้ดีที่สุด และบ่ายวันนี้ เราจะได้พบกับคุณอาเธอร์ตัวจริง

20160921-_mg_0668

เมื่อถึงเวลานัดหมาย คุณอาเธอร์ยืนรอน้องภูมิด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแม้ว่าอากาศวันนั้นจะค่อนข้างร้อนมาก และก้มตัวทักทายน้องภูมิด้วยการจับมือและแปะมือ high five อย่างเป็นกันเอง

20160921-_mg_1066

หลังจากทักทายทำความรู้จักกัน เราก็เดินไปหาที่นั่งบริเวณนั้นเพื่อให้ภูมิได้พูดคุยกับคุณอาเธอร์อย่างที่ตั้งใจ

คุณอาเธอร์เป็นผู้ชายที่มีรอยยิ้มที่จริงใจ แววตาสดใส สุภาพ และดูมีความสุข ท่าทางการพูดคุยอย่างให้เกียรติของคุณอาเธอร์ทำให้เรารู้สึกเป็นคนพิเศษ และน้องภูมิก็คงรู้สึกเหมือนกัน เพราะเห็นภูมิตั้งใจฟังคุณอาเธอร์ตลอดเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่คุยกัน

20160921-_mg_1157

สิ่งที่คุณอาเธอร์บอกและเล่าให้ภูมิฟังทำให้เราสัมผัสได้ถึงทัศนคติที่ดีในการทำงาน ความสุขจากการให้ ความเอาใจใส่ในรายละเอียด และการเป็นส่วนหนึ่งของความสุขของผู้อื่นในทุกๆ วัน — รวมๆ แล้วคงจะเรียกได้ว่าเราได้สัมผัสหัวใจของการบริการที่ดิสนีย์แลนด์ผ่านคุณอาเธอร์ก็ว่าได้

หลายอย่างที่คุณอาเธอร์บอกกับภูมิก็สัมผัสหัวใจผู้ใหญ่อย่างเราเหมือนกัน ถ้าฟังเผินๆ เหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อนึกถึงประสบการณ์ที่เราได้รับจากการมาดิสนีย์แลนด์แล้ว รู้สึกได้ว่าคำพูดง่ายๆ แบบนี้นี่แหละ ที่เป็นเบื้องหลังความสุขของทุกคนที่ก้าวเข้ามาที่ดิสนีย์แลนด์

อย่างเช่นคำตอบที่ได้รับจากคำถามนี้ “รู้สึกอย่างไรที่ได้ทำงานเป็นแคสท์ของที่นี่”

คุณอาเธอร์ตอบไว้(ประมาณ)ว่า “รู้สึกตื่นเต้น เพราะงานที่ดิสนีย์แลนด์คืองานในฝันสำหรับทุกคน เราได้ทำงานในบริษัทที่สร้างความสุขทุกวัน ที่ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่เราสร้างความสุขให้กับเพื่อนร่วมงานด้วย มันเป็นความสนุกของผมที่ได้ทำอย่างนี้

…การทำงานที่นี่ คือการทำให้คนอื่นมีความสุข สร้างรอยยิ้ม และนั่นทำให้ผมมีความสุขไปด้วย”

และอีกหลายประโยคที่ได้ฟังแล้วอยากเขียนแบ่งปัน :)

“จริงๆ การทำงานที่ดิสนีย์แลนด์นั้นไม่ใช่งานโดยตรง แต่เป็นบทบาท เป็นภารกิจ ที่ช่วยให้คนอื่นมีความสุข ช่วยให้ฝันของคนอื่นเป็นจริง และเราก็จะมีความสุข”

“เมื่อเราทำให้ใครสักคนมีความสุข เขาก็จะมีแรงบันดาลใจที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขไปด้วย”

20160921-_mg_1074

ในวัย 8 ขวบของภูมิ เขาอาจจะเข้าใจเรื่องราวที่ได้ฟังจากคุณอาเธอร์ไม่เหมือนกับที่ผู้ใหญ่อย่างเราเข้าใจ แต่เชื่อแน่ว่า ภูมิมีความสุขที่ได้พูดคุยและได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้น …เป็นความสุขที่ได้สัมผัสถึงความสุขของคนที่ให้ความสุขกับคนรอบตัว

หลังสัมภาษณ์เสร็จ เราถามภูมิว่ารู้สึกยังไงบ้าง

“มีความสุขครับ”

20161004-_mg_2926

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะครับ ***

ความน่ารักในดิสนีย์แลนด์ที่อยากเล่าให้ฟัง

โพสที่แล้วทำเอาเสียน้ำตากันไปหลายคนเลย วันนี้มาอ่านเรื่องน่ารักๆ กันบ้างนะคะ ^^

ดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกในฝันของใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าเขาพยายามจะให้ทุกคนที่มาเที่ยวได้รับความสนุกและมีความสุขกลับไป  เรื่องของความสนุกนั้นเราก็คงจะได้รับกันตรงๆ จากเครื่องเล่นและโชว์ทั้งหลายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของความสุขเล็กคิดว่ามีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่ผสมผสานกันและทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น เรื่องที่เล็กจะแบ่งปันในโพสนี้คือสิ่งละอันพันละน้อยที่เราได้รับและรู้สึกว่าทุกอย่างรวมกันแล้วทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่นี่ :D

20160920-_mg_0452

ครั้งนี้ที่เราไปดิสนีย์แลนด์ น้องภูริอายุ 3 ขวบพอดี และโตพอที่จะไม่ยอมนั่งรถเข็นง่ายๆ ถ้าไม่หลับก็ไม่ค่อยจะยอมนั่ง เราเลยตัดสินใจกันว่าจะไม่เอารถเข็นของภูริไปด้วย เพราะคิดว่าน่าจะไม่ได้ใช้ แต่เราลืมไปว่าดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ และแม้ว่าภูริจะชอบเดินเองเขาก็ยังเป็นเด็กเล็กที่เดินได้ไม่อึดเท่าพี่ภูมิ >.< แค่วันแรกที่เรามาถึง ขนาดว่าเราไม่ได้เดินกันมากเท่าไหร่ เราก็เริ่มเห็นแววแล้วว่ารถเข็นยังจำเป็นอยู่ เพราะพอภูริเริ่มเมื่อยปาป๊ากับแม่ก็ต้องแข็งแรงขึ้นมาทันที… เฮือก.. 13 กิโล =_=’

20160921-_mg_0898

แม่ขอแข็งแรงวันแรกวันเดียวก็พอละกันนะภูริ ^^’ วันที่สอง พอเข้าสวนสนุกปุ๊บเล็กก็เดินตรงปรี่ไปที่สถานีดับเพลิงทันที – – ที่ดิสนีย์แลนด์ พอเข้ามาจะเหมือนเรามาอยู่ที่เมืองเมืองหนึ่ง เป็นเมืองน่ารักๆ แสนสวย มีสถานีรถไฟ ถนนหลักของเมืองจะมีร้านค้าน่ารักๆ มากมาย ทั้งร้านเบเกอร์รี่ ร้านถ่ายรูป ร้านกาแฟ ฯลฯ และเขาก็จะพยายามทำส่วนบริการอื่นๆ เช่นห้องพยาบาล จุดบริการลูกค้า ให้รวมอยู่ในเมืองแห่งนี้อย่างแนบเนียน

ดังนั้น ที่เล็กตรงไปยังสถานีดับเพลิงก็เพราะ ตรงนี้เป็นจุดให้ยืมรถเข็นนั่งเอง..ง…. ^^

รถเข็นที่นี่จะมีให้ยืมทั้งแบบของเด็กอายุประมาณ 2 ขวบขึ้นไป (น้ำหนักตัวไม่เกิน 25 กก. ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) และแบบรถเข็นนั่งวีลแชร์ของผู้ใหญ่ การยืมไม่ยุ่งยากค่ะแต่มีจำนวนจำกัดและไม่มีบริการให้จอง ใครมาก่อนได้ก่อนค่ะ แนะนำว่าถ้าครอบครัวไหนต้องการใช้รถเข็นให้รีบเดินเข้ามาตรงจุดให้เช่าก่อนเลยนะคะ (อย่าเพิ่งแวะถ่ายรูปเล่น ^^) ค่าเช่าอยู่ที่คันละ 100 HKD มัดจำอีก 100 HKD รวมเป็น 200 HKD ต่อวันค่ะ เงินมัดจำจะได้คืนตอนที่เราคืนรถเข็นพร้อมแสดงใบเสร็จ ถ้าไม่มีใบเสร็จจะไม่ได้เงินมัดจำคืนนะคะ ต้องเก็บใบเสร็จให้ดีค่ะ (ตอนคืนรถเล็กเกือบจะหาใบเสร็จไม่เจอ จำได้ว่าแยกเก็บไว้อย่างดีแล้ว แต่ดันไม่ได้จำว่าเก็บไว้ตรงไหน ต้องเปิดกระเป๋ารื้อค้นกันเลย คือ..เก็บดีมาก ^^’)

20160921-_mg_1955

รถเข็นเช่าของที่นี่สะอาดและแข็งแรงทีเดียวค่ะ ที่นั่งเป็นแบบเปิดโล่ง เด็กๆ ขึ้นลงได้สะดวก มีเบรค มีสายล๊อคเอวกันตก และมีหลังคากันเแดดเล็กๆ ให้ด้วย รูปทรงของสองล้อหลังจะดูเอียงแปลกๆ แต่เราค้นพบภายหลังว่ามันทำให้เข็นได้ง่ายและคล่องตัวมากในที่แคบๆ 

ตอนที่เราติดต่อเช่า เขาจะให้เราเขียนป้ายชื่อของเราเพื่อใส่ไว้ที่ด้านหลังรถเข็นด้วย เพราะเวลาเราไปเล่นเครื่องเล่นหรือดูโชว์  จะต้องจอดรถเข็นไว้ในจุดจอดรถเข็นบริเวณทางเข้า ซึ่งทั้งรถเข็นเช่าหรือรถเข็นส่วนตัวก็จะต้องจอดที่เดียวกันนี้ค่ะ ทีนี้รถเข็นเช่าแต่ละคันมันจะดูเหมือนๆ กัน การมีป้ายชื่อก็จะช่วยไม่ให้เราหยิบผิดคันค่ะ

วันที่สองของเราในดิสนีย์แลนด์ เราได้ใช้เจ้ารถเข็นนี่ตลอดทั้งวันยันมืดเลย เดินเมื่อยๆ เหนื่อยๆ ก็ยังใช้แขวนสัมภาระของเราได้อีกด้วย รถเข็นเด็กคันนี้ช่วยเบาแรงและทำให้เราเดินเที่ยวได้สนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ :D

20160921-_mg_1935

อีกเรื่องที่เล็กชอบมากคือบริการส่งของค่ะ เวลามาเที่ยวสวนสนุกอย่างนี้ เราต้องผลุบเข้าผลุบออกอยู่กับพวกเครื่องเล่นตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าเราก็คงไม่อยากหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังใช่ไม๊คะ แต่บางทีเราเดินผ่านร้านขายของตามโซนต่างๆ เราก็อยากจะซื้อของที่ระลึก/ของฝาก บ้างเหมือนกัน ความที่ไม่อยากแบกของเยอะเล็กเลยวางแผนว่า ไว้ค่อยไปเลือกซื้อของที่ร้านใกล้ๆ ทางออก ตอนที่เราจะกลับจะได้ไม่ต้องหอบให้พะรุงพะรังตอนเดินเที่ยวในสวนสนุก

แต่วันแรกเราอยู่จนค่ำและเด็กๆ ก็หมดสภาพมาก อีกทั้งของบางอย่างก็มีขายเฉพาะที่โซนนั้นๆ เท่านั้น สุดท้ายก็ไม่ได้เดินเลือกดูของอย่างที่ตั้งใจ วันที่สองเล็กเลยตัดใจคิดว่าไม่เป็นไร เจออะไรที่คิดว่าจะซื้อก็ซื้อเลย แล้วก็หิ้วกันไปด้วยละกัน

แต่..เราไม่ต้องทำอย่างนั้นค่ะ ^^

ตอนที่ชำระเงิน Cast ประจำเคาน์เตอร์แคชเชียร์เห็นว่าของที่เล็กซื้อเป็นถุงใหญ่ ก็ถามเล็กทันทีว่าอยากจะฝากของไว้ก่อนไม๊ เธอบอกว่า คุณสามารถรับของที่ซื้อได้ที่จุดรับของบนถนนหลักก่อนกลับ อืมม์..เล็กว่าเป็นความคิดที่ดีเลย เล็กสอบถามเรื่องเวลารับและรายละเอียดอื่นๆ จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันบ้างแต่อาจจะมีพูดเรื่องโรงแรม Cast ก็รีบถามทันทีเลยว่า คุณพักที่นี่หรือเปล่า เล็กตอบว่าใช่ๆ เราพักที่ Disney’s Hollywood Hotel เธอก็เลยบอกว่างั้นให้ส่งของไปให้ที่โรงแรมเลยดีไม๊ ของน่าจะไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น โอ้.. เอาสิคะ มันดียอดเยี่ยมไปเลย ถ้ารู้ว่ามีบริการอย่างนี้ก็ซื้อไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ถือแค่กระดาษไปรับของที่โรงแรมเท่านั้น เดินเที่ยวชิลๆ ไปได้เลยค่ะ :D

20160921-_mg_1353

พูดถึงเรื่องซื้อของ ในทริปนี้คุณแม่ของน้องเฌอแตมที่เดินทางไปกับเราด้วย เธอซื้อลูกโป่ง 2 ชั้น ให้ลูกสาวในวันแรกที่มาถึง (เป็นลูกโป่งเนื้อหนาอย่างดี ที่มีลูกโป่งหัวมิคกี้อยู่ข้างใน น่ารักมากๆ ค่ะ)  เธอก็บ่นว่าเสียดายจังตอนที่ซื้อลืมไปว่าเราไม่น่าจะเอาลูกโป่งขึ้นเครื่องบินกลับบ้านได้ แต่ถ้าต้องทิ้งก็น่าเสียดาย (ใบละร้อยกว่าเหรียญ ^^’) เธอลองกลับไปถาม Cast ที่ขายลูกโป่งว่ามีวิธีเอาลมออกได้หรือไม่ Cast ลองพยายามดูแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ จึงบอกว่าคุณเปลี่ยนเอาใบใหม่ที่ยังไม่ได้เป่าไปได้เลย …น่ารักมากๆ เลยใช่ไม๊คะ :D

ความน่ารักที่เป็นความลับอีกอย่างที่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือ Cast member (เจ้าหน้าที่) ทุกคนที่นี่มีสิ่งพิเศษซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่ว่า Cast คนนั้นจะมีหน้าที่อะไร ทำงานในส่วนไหน หากเราเดินเข้าไปถามเขาว่า “Do you have sticker?” ทุกคนจะพยักหน้า.. ยิ้ม… ล้วงกระเป๋ากางเกง และเอาสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ของดิสนีย์ยื่นให้เรา!!! (ความลับนี้เราก็เพิ่งรู้มาจากลุงเด้ง ^^) 

ขอได้ทุกคนจริงๆ นะคะ Cast ที่มีหน้าที่เก็บกวาดทำความสะอาดก็มี, Cast ที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มี, Mr. Hong – Housekeeping Manager ของโรงแรมที่พาก๊ะมาส่งคืนให้เราก็มีค่ะ แถม Cast แต่ละโซนก็จะมีสติ๊กเกอร์ที่เป็นเรื่องราวของโซนตัวเอง น้องภูมิสนุกมากกับการสะสมสติ๊กเกอร์แบบต่างๆ ทริปนี้ทั้งภูมิและภูริได้สติ๊กเกอร์กลับมาเพียบเลยค่ะ ใครไปเที่ยวลองขอสติ๊กเกอร์จาก Cast ดูนะคะ สนุกดี ^^

อีกความน่ารักที่คุณก๊อกกับเล็กชอบมากๆ เลยคือถังขยะที่นี่ค่ะ ^^ ถังขยะที่นี่นอกจากจะสะอาด (มาก) ตลอดเวลาแล้ว มันยังทำตัวกลมกลืนมากๆ ในทุกที่ที่มันตั้งอยู่ ไม่ว่าจะในเป็นเมืองอวกาศ โลกอนาคต เมืองเจ้าหญิงแสนหวาน เมืองลี้ลับในป่าลึก เมืองของเล่น ในโรงแรม ฯลฯ เขาจะออกแบบลวดลายสีสันที่เข้ากั๊นเขากันค่ะ หันไปเจอทีไรต้องยิ้มให้มันทุกทีเลยสิน่า ที่เก็บภาพมานี่คือบางส่วนเท่านั้นนะคะ ทุกใบสะอาดแบบยืนพิงได้เลยค่ะ :D

ความน่ารักๆ เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้หล่ะค่ะที่เล็กรู้สึกว่ามันประกอบกันแล้วทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่ดิสนีย์แลนด์ :D

โพสหน้าเล็กจะมาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจพิเศษของครอบครัวเราในเที่ยวบินขากลับ – น้องภูมิได้มีโอกาสเข้าไปในห้องนักบินและได้พูดคุยกับกัปตันด้วย ติดตามนะคะ :D

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะคะ ***


ตอนนี้ ดิสนีย์แลนด์มีโปรโมชั่นห้องพักกับส่วนลดสูงสุดถึง 35% และสามารถอัพเกรดห้องพักได้ฟรี! ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2560 นะคะ ดูรายละเอียดและจองผ่านลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

https://www.hongkongdisneyland.com/th/offers-discounts/limited-time-room-offer/?CMP=BAC-CoopXmas17BlPlThThHtlLtdRmOfr

การหายตัวไปของ ‘ก๊ะ’ กระต่ายเน่าของภูริ

‘ก๊ะ’ เป็นตุ๊กตากระต่ายสีขาว นุ่มๆ เน่าๆ ที่น้องภูริรักมาก.ก.ก… ภาพที่ครอบครัวเราเห็นเป็นประจำก็คือภาพน้องภูริกอดก๊ะตอนหลับและตอนที่ตื่นลืมตามาเช้าๆ ภูริก็จะมีก๊ะอยู่ในมือเสมอ (ลากไปไหนมาไหนทั่วบ้านจนกว่าจะหายงัวเงีย) เป็นอย่างนี้มานานเกือบสามปีแล้ว จนรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพื่อนๆ ของครอบครัวเราจะได้อ่านเรื่องเล่าเกี่ยวกับก๊ะที่เล็กแชร์อยู่บ่อยๆ

ka1

น้องภูริรักกระต่ายตัวนี้มาก แต่เล็กก็ไม่อยากให้ลูกติดตุ๊กตามากเกินไปจนต้องมีติดตัวไปด้วยทุกที่ เพราะเล็กไม่อยากให้เราไปหลงลืมมันไว้ที่ไหน (เล็กเคยเห็นเด็กเล็กๆ ที่ทำตุ๊กตาตัวโปรดของตัวเองหาย น่าสงสารมาก T-T) เราก็เลยตกลงกันว่าเราจะพาก๊ะไปข้างนอกด้วยเวลาที่เราต้องเดินทางไปนอนค้างที่อื่นเท่านั้น ซึ่งภูริก็ตกลงและเราก็ทำอย่างนี้เสมอมา ไม่ว่าภูริไปจะนอนค้างที่ไหน ก๊ะก็จะได้ไปด้วยทุกครั้ง (อ่านเรื่องเล่าของก๊ะที่เล็กเคยแบ่งปันที่เพจได้ที่นี่นะคะ)

20160920-_mg_0138

ครั้งนี้เรามาเที่ยวดีสนีย์แลนด์ แน่นอนว่าก๊ะก็มาด้วย เล็กให้ภูริเอาก๊ะขึ้นเครื่องด้วยเพื่อช่วยให้เขาสบายใจและหลับง่ายเวลาอยู่บนเครื่อง พอถึงโรงแรมเราก็เอาก๊ะไว้ในห้องพักเหมือนทุกครั้ง คืนแรกผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไร คืนที่สองหลังจากที่เรากลับมาจากสวนสนุกในช่วงค่ำ คุณก๊อกนั่งเช็คงาน ส่วนเล็กเตรียมจัดกระเป๋าให้พร้อมสำหรับการเช็คเอ้าท์พรุ่งนี้เช้า เด็กๆ อาบน้ำเสร็จก็นั่งดูทีวีกัน ยังไม่มีใครผิดสังเกตอะไร

20160920-_mg_0166

จนกระทั่งถึงเวลาเข้านอน ภูริถามหาก๊ะ ตอนที่ลูกถามหาเล็กก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน เพราะตอนที่เล็กไล่เก็บข้าวของลงกระเป๋าก็น่าจะเห็นผ่านตาบ้างแต่ก็ไม่ยักกะเห็น แต่ไม่เป็นไรก๊ะชอบหายตัวไปอยู่ตามซอกตามมุมของบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ห้องพักนี้ก็เล็กกว่าบ้านเรามากลองหากันดูอีกทีเดี๋ยวคงเจอ เล็กพาเด็กๆ อธิษฐานและช่วยกันหาดูจนทั่วห้องอีกครั้งแต่ก็ไม่เจอ เอาละสิ… หายไปไหนได้ไงเนี่ย! >.<

ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณก๊อกกับภูมิลงไปแจ้งเรื่องที่ Lobby หลังจากทราบเรื่อง ทางโรงแรมก็ส่งเจ้าหน้าที่มาที่ห้องเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจอีกทีว่ามันไม่อยู่ที่ห้องแน่ๆ จากนั้นซักพักทางโรงแรมก็โทรศัพท์ขึ้นมาบอกว่า มันอาจจะติดไปกับผ้าปูที่นอนตอนแม่บ้านมาทำความสะอาดและตอนนี้ยังไม่สามารถติดตามได้ เพราะเขาส่งผ้าออกไปซักข้างนอก ต้องรอตอนเช้า T_T

20160929-screen-shot-2016-09-29-at-22-21-55

ตอนที่หาไม่เจอเล็กก็คิดว่าต้องเกิดจากความผิดพลาดตอนทำความสะอาดห้องแน่ๆ แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะถึงก๊ะจะไม่ได้เป็นตุ๊กตาตัวใหญ่แต่มันก็ไม่เล็กนะคะ (ความยาวประมาณฟุตนึง) และเวลาเราไปพักตามโรงแรมมันก็จะถูกวางทิ้งไว้บนเตียงเสมอตอนที่เราไม่อยู่ที่ห้อง …ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ T_T

คืนนั้นน้องภูริถามหาก๊ะจนหลับไป ภูริถามว่า ก๊ะอยู่ไหน? ทำไมเขาเอามันไป? แล้วเมื่อไหร่มันจะกลับมา? เล็กตอบลูกแล้วก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะในใจก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะได้กลับมาไม๊ คิดไปสารพัด ถ้ามันติดไปกับผ้าปูที่นอนจริงๆ แล้วเขาไปทำตกหล่นระหว่างทางล่ะ!… ป่านนี้มันอยู่ที่ไหน?… ถ้าหาไม่เจอจะบอกลูกยังไง?… ลูกคงต้องถามหามันไปอีกนาน..น.. (ภูริทำรถของเล่นหายเมื่อสองเดือนก่อน ทั้งที่ไม่ได้รักมากเท่าก๊ะ แต่ทุกวันนี้ก็ยังถามหาอยู่เลย T-T;)

แล้วคืนนี้ ก็เลยเป็นคืนแรกที่ภูริกับก๊ะไม่ได้นอนด้วยกัน

20150729-_mg_2877

ระหว่างที่เล็กพาเด็กๆ เข้านอน คุณก๊อกลงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรมอีกรอบ เพื่อบอกพวกเขาว่า ‘ก๊ะ’ สำคัญกับภูริและครอบครัวเรามากแค่ไหน ครั้งนี้ Housekeeping Manager และ Assistant เดินออกมาพูดคุยด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอโทษและพยายามอธิบายถึงสิ่งที่พวกเขาจะทำให้เราได้ในคืนนี้ …แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

ก่อนกลับขึ้นมาที่ห้อง Housekeeping Manager ขอให้คุณก๊อกเลือกของเล่นอะไรก็ได้จากร้านค้าไปให้ภูริเพื่อเป็นการปลอบใจ คุณก๊อกกลับขึ้นห้องมาพร้อมกับตุ๊กตามิคกี้เมาส์ (คุณก๊อกบอกว่าเขารู้ดีว่ามันแทนไม่ได้ แต่เห็นว่าตอนที่มาถึงที่นี่ภูริตื่นเต้นเวลาเจอมิคกี้เมาส์ เลยคิดว่าตุ๊กตามิคกี้เม้าส์ตัวนี้น่าจะช่วยได้บ้าง)

คุณก๊อกขึ้นมาถึงห้องเด็กๆ ก็หลับหมดแล้ว มีแต่เล็กนั่งน้ำตาไหลอยู่ T-T คุณก๊อกเล่าให้ฟังเรื่องของเล่นที่ทางโรงแรมฝากมาให้น้องภูริเพื่อปลอบใจ ความรู้สึกเล็กตอนนั้นบอกไม่ถูก รู้สึกว่าทางโรงแรมเขาก็พยายามที่จะดูแลเราดีนะ แต่ไม่สิ ไม่อยากได้ของเล่นใหม่ อยากได้กระต่ายเน่าตัวเดิม! เล็กเดินเอาตุ๊กตามิคกี้เมาส์ตัวนั้นไปคืน ยืนน้ำตาซึม ไม่ได้โวยไม่ได้เหวี่ยง แค่บอกเขาว่าเล็กขอไม่รับนะ แต่ขอร้องให้พวกคุณไปตามหาตุ๊กตากระต่ายตัวนั้นให้เจอ แล้วพามันกลับมาให้ได้ก่อนที่เราจะกลับ มันมีความหมายกับครอบครัวเรามาก ตุ๊กตาใหม่อีก 10 ตัวก็แทนไม่ได้ Housekeeping Manager 2 คน ยืนฟังเล็กอย่างเข้าใจ (และพยายามหาคำพูดที่จะปลอบป้าคนนี้) ทั้งสองรับปากว่าจะพยายามอย่างดีที่สุดและขอโทษอย่างมากกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

คืนนั้นดูเหมือนเล็กจะหลับยากกว่าภูริซะอีก คิดถึงหน้าก๊ะแล้วก็ใจหาย เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า นี่ลูกติดตุ๊กตา หรือว่าเราติดตุ๊กตาลูกกันแน่ >.< คิดๆ แล้วก็คิดถึงเรื่องของเอ็ดเวิร์ด ทูเลน (หนังสือเล่มโปรดของเล็กเมื่อ 10 ปีที่แล้ว) กระต่ายกระเบื้องที่ผลัดพรากจากเจ้าของตัวนั้น กว่ามันจะกลับมาเจอเจ้าของอีกทีก็ตอนที่เจ้าของโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก๊ะมันเป็นตุ๊กตาผ้ามันคงไม่ทรหดอดทนได้เป็นสิบปีขนาดนั้น >.< …ภาพการผจญภัยของบรรดาของเล่นใน Toy Story ผุดขึ้นมาในหัว ก๊ะมันคงจะเรียก ภูริ! ภูริ! ชั้นอยู่ในกองผ้า… ช่วยด้วย..ย.ย.!!. แต่ก็… ขอบคุณพระเจ้ายังไงมันก็เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับลูกๆ ของเรา ….หรือว่า.. ถึงเวลาที่พระเจ้าเห็นว่าภูริควรจะ..เติบ..โต.ขึ้..น… Z..z..z…..z…..คร่อก..ฟี้…

ตอนเช้าก็เป็นอย่างที่เราคิดไว้ ภูริถามหาก๊ะตั้งแต่ตื่นลืมตา ภูริเก่งมาก ภูริแค่ถามหา ภูริไม่ร้องไห้ ไม่โยเย (แต่ถามวนอยู่อย่างนั้น แล้วก็พูดซ้ำๆ ว่าภูริคิดถึงก๊ะอะแม่ T-T) เล็กบอกเขาไปว่าเจ้าหน้าที่เขากำลังไปตามหาให้อยู่นะ มาอธิษฐานกัน

คุณก๊อกแต่งตัวเสร็จก็รีบลงไปที่ Lobby เพื่อตามเรื่อง ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่เช็คเรื่องให้อยู่ Mr.Hong ซึ่งเป็น Housekeeping Manager รอบนี้ ก็มาพบคุณก๊อกบอกว่าได้รับเรื่องต่อจาก Housekeeping Manager เมื่อคืนแล้ว Mr.Hong กล่าวขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วบอกว่าเขาเพิ่งได้รับการติดต่อมาว่าเจอตุ๊กตากระต่ายแล้ว ตอนนี้กำลังส่งกลับมา ถ้ามาถึงแล้วจะรีบเอามาให้ทันที

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ระหว่างที่พวกเรากำลังเดินเล่นในสวนของโรงแรม Mr.Hong ก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับถุงพลาสติกในมือ เขาย่อตัวลงตรงหน้าภูริแล้วค่อยหยิบก๊ะออกมาจาถุงพลาสติก ก๊ะของภูริ ก๊ะตัวเดิม ที่เพิ่มเติมคือตัวมันแฟ่บลงและขาวจั๊วะเลย (โดนน้ำยาซักผ้าขาวและลงเครื่องปั่นหนักไปแล้วแน่นอน) เสื้อยืดสีเทาตัวที่แม่เพิ่งตัดให้ก่อนเดินทางมาก็ไม่อยู่แล้ว (ไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่ตัดให้ใหม่) ขอบคุณพระเจ้า ยังไงก๊ะก็กลับมาแล้ว… ไปเที่ยวมาสนุกไม๊ รู้ป่าวแม่เป็นห่วง

20160929-screen-shot-2016-09-29-at-19-27-17

Mr.Hong กล่าวขอโทษน้องภูริและครอบครัวเราอย่างอ่อนน้อม พร้อมบอกกับเราว่าเขาเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อนและเขาเสียใจมากๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอมอบตุ๊กตามิคกี้เมาส์ (ตัวเมื่อคืน) ให้ภูริเพื่อเป็นการขอโทษ ภูริดีใจมากที่ก๊ะกลับมาและก็ดีใจด้วยที่มีเพื่อนใหม่เป็นมิคกี้เมาส์ พวกเรากล่าวขอบคุณ Mr.Hong  ที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยให้เด็กๆ ไม่ต้องกลับบ้านไปพร้อมกับความทรงจำที่ไม่ดี … เพราะที่นี่คือดีสนีย์แลนด์ 

20160922-_mg_2026

เสร็จเรื่องแล้วเราก็เดินไปที่ห้องอาหารเพื่อทานอาหารเช้า ภูริอุ้มก๊ะไว้แนบตัวกอดมันแล้วพูดว่า “ขอโทษนะ” เล็กได้ยินก็เลยหันไปยิ้มแล้วบอกลูกว่า “มันไม่ใช่ความผิดของน้องนะ” ภูริตอบว่า “ไม่ใช่ความผิดของน้อง แต่น้องน่ารัก” ^^

20160922-_mg_2267

พอกลับมาถึงบ้านเล็กก็จัดการเปลี่ยนใส้ก๊ะให้ใหม่หมดเลย เพราะมันคงโดนปั่นด้วยเครื่องซักที่แรงมาก ใยสังเคราะห์เดิมถูกอัดจนเป็นก้อน หัวฟีบแบน ตัวเหี่ยว ส่วนใยสังเคราห์อย่างดีชุดใหม่ที่เพิ่งเติมไปให้ไม่ถึงสองเดือน ก็ไม่ฟูแล้ว ดูสภาพสิคะ

เปลี่ยนใส้ใยสังเคราะห์ให้ใหม่แล้วค่อยดูดีขึ้นหน่อย เล็กตัดเสื้อยืดตัวใหม่ให้แทนตัวที่หายไปด้วย ตอนนี้ก๊ะกลับมาหล่อเหมือนเดิมแล้วค่ะ :D

20160929-_mg_2419

ใครที่เคยมีประสบการณ์คล้ายๆ อย่างนี้แบ่งปันกันได้นะคะ โพสหน้าเล็กจะเขียนเล่าเรื่องน่ารักๆ ในดีสนีย์แลนด์ที่เราประทับใจให้อ่านนะคะ รอติดตามค่ะ :D

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะคะ ***


ตอนนี้ ดิสนีย์แลนด์มีโปรโมชั่นห้องพักกับส่วนลดสูงสุดถึง 35% และสามารถอัพเกรดห้องพักได้ฟรี! ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2560 นะคะ ดูรายละเอียดและจองผ่านลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

https://www.hongkongdisneyland.com/th/offers-discounts/limited-time-room-offer/?CMP=BAC-CoopXmas17BlPlThThHtlLtdRmOfr

รีวิวเครื่องเล่นที่ Hong Kong Disneyland กับแม่เล็ก(และน้องภูมิ) ^^

20160921-_mg_0902-3ครั้งนี้เรามาเยือน Hong Kong Disneyland ในช่วงใกล้เทศกาล Halloween ธีมของสวนสนุกในช่วงนี้จึงเป็น “Disney Halloween Time” บรรยากาศการจัดตกแต่งสถานที่ก็จะเน้นสีสันของวัน Halloween โดยเหล่าคาแรคเตอร์ต่างๆ ทั้งมิคกี้และมินนี่และตัวการ์ตูนที่เราคุ้นเคยอีกมากมายก็จะพากันแต่งกายในชุดแฟนซีฮาโลวีน ของขวัญของที่ระลึกในร้านค้าก็มีเป็นธีมฮาโลวีนให้เลือกมากมาย ไปจนถึงขนมและอาหารเขาก็จะสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศ เช่น คัพเค้กแวมไพร์ หรือฮะเก๋ารูปหัวกระโหลกอะไรอย่างงี้ ^^

เด็กๆ ที่จะมาเที่ยวช่วงนี้และชื่นชอบสีสันและการแต่งชุดแฟนซีแบบฮาโลวีน ก็จัดเต็มกันมาได้เลยนะคะ ใครที่แต่งชุดได้เข้าบรรยากาศมากๆ เหล่าแคส (เจ้าหน้าที่ของดีสนีย์แลนด์) ก็จะเข้าไปทาบทามให้เข้าร่วมปาร์ตี้แต่งกายแฟนซีของมิกกี้และผองเพื่อน และจะได้เดินร่วมกับกลุ่มนักแสดงในขบวนพาเหรดด้วยนะคะ

20160921-_mg_1407

ขบวนพาเหรดประจำวันภาคบ่ายจะเป็น ‘Mickey’s Halloween Time Calvacade’ ประกอบด้วย มิกกี้ มินนี่ และกู๊ฟฟี่ บนตะเกียงฟักทอง Jack O’Lantern สีส้มสด ใหญ่ยักษ์สามอันซึ่งหมุนไปพร้อมกับมิตรสหายดิสนีย์อื่นๆ อีกหลายตัว สวยงาม ดูเพลินตามสไตล์ดีสนีย์ค่ะ อ้อ..เตรียมร่มและหมวกสำหรับเด็กๆ มาด้วยนะคะ ช่วงบ่ายแดดแรงมาก ถ่ายรูปสวยแต่ก็ร้อนมากค่ะ ^^’ ส่วนสีสันการแสดงภาคค่ำนั้นอาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับเด็กเล็กเท่าไหร่นะคะ เพราะจะเป็นการแสดงแสงสีเสียงที่เน้นความหลอน.น… พอท้องฟ้ามืดบรรยากาศปราสาทเจ้าหญิงที่สวยหวานใจกลางสวนสนุกก็จะถูกเปลี่ยนเป็นปราสาทแม่มดผู้เกรี้ยวกราด ผู้ใหญ่ก็ดูเพลินๆ ค่ะ แต่เด็กๆ นี่อาจจะน่ากลัวไปหน่อย ^^’

พาเหรดภาคค่ำจะเป็น ‘Villains Night Out’ เหล่าคาแรคเตอร์ตัวร้ายของดีสนีย์ที่จะพากันออกมาเต้นด้วยใบหน้าที่ถมึงทึงเพื่อสร้างความน่าสะพรึงกลัว และในช่วงเทศกาล Halloween นี้ก็ยังมีโซนบ้านผีสิง ‘The Nightmare Experiment’ ที่ The Pavilion ให้เล่นด้วยค่ะ แต่ความที่เรามีลูกเล็ก เล็กเลยส่งให้คุณก๊อกไปสังเกตุการณ์คนเดียว ทั้งบ้านผีสิง และพาเหรดภาคค่ำ คุณก๊อกบอกว่าบ้านผีสิงนั้นสนุกดี มีหลอกให้ตื่นเต้นตกใจพอได้ยินเสียงวี้ดว้ายบ้าง สำหรับผู้ใหญ่ก็ถือว่าไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ทั้งบ้านผีสิงและพาเหรดภาคค่ำเราคิดว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กนะคะ ถ้าครอบครัวไหนมีเด็กเล็กและอยากจะให้เด็กๆ ได้ชมพาเหรดของดีสนีย์ เล็กแนะนำให้มาช่วงใกล้ๆ ปีใหม่นะคะ ช่วงนั้นจะเป็นธีมคริสตมาส พาเหรดจะสวยงามและดูสนุกกว่ามากสำหรับเด็กๆ ค่ะ :)

ไปต่อกันที่เครื่องเล่นกันบ้างนะคะ มีเครื่องเล่นหลายตัวที่น้องภูมิทั้งติดใจและคาใจจากคราวที่แล้วและหมายมั่นมากๆ ว่าจะต้องมาเล่นให้ได้ ^^ ตอนท้ายเรื่องมีรีวิวส่วนตัวของน้องภูมิที่ให้คะแนนเครื่องเล่นและการแสดงแต่ละชุดด้วยนะคะ เผื่อใครจะตามรอยจะได้มีข้อมูลประกอบการวางแผนเที่ยว :D

20160921-_mg_1704

มาเริ่มกันที่เจ้า ‘RC Racer’ ที่คราวที่แล้วน้องภูมิอยากเล่นมาก.ก.ก… แต่ติดที่ส่วนสูงไม่ถึง (ขาดไป 5 ซ.ม.) ซึ่งถ้ายังไม่ถึงที่กำหนดไว้ยังไงเจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เล่นค่ะ คราวนี้น้องภูมิมาพร้อมกับความสูงที่ผ่านเกณฑ์แล้วก็เล่นได้ละ เล่นเสร็จลงมาภูมิบอกให้คะแนนความหวาดเสียวสูงสุด ไม่กล้าลืมตาเลย เล็กถามว่าจะเล่นอีกไม๊ น้องภูมิหัวเราะแล้วก็ส่ายหน้า (ฮา) เครื่องเล่นตัวนี้จะเหมือนกับไวกิ้งสมัยก่อนหน่ะค่ะ เล็กยืนดูอยู่ข้างล่างยังเสียวเลยค่ะเจ้า ‘RC Racer’ มันเหวี่ยงสูงมาก.ก..ก…ก… อันนี้ยังไงแม่ก็ไม่ยอมเล่นเด็ดขาด ^^’

ต่อด้วย ‘Hyperspace Mountain’ เจ้าตัวนี้เป็นเครื่องเล่นที่คราวที่แล้วน้องภูมิชอบมาก เล่นกับป๊ารอบนึงแล้วก็มาชวนแม่ไปเล่นอีก เล็กเห็นน้องภูมิเล่นได้ก็คิดว่าคงจ ะไม่หวาดเสียวเท่าไหร่ ที่ไหนได้ลงมาขาสั่นเลย ^^’ มาครั้งนี้พิเศษกว่าเดิมอีกตรงที่เขาเปลี่ยนโฉมใหม่หมดเป็นธีม Star Wars มีแสงสีเสียงที่ตื่นเต้นเร้าใจ และทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังบินอยู่ใน X-Wing ท่ามกลางสงครามอวกาศสุดล้ำ ภูมิเล่นรอบแรกบอกว่าตื่นเต้นมาก ตะลึงอึ้งไปเลย แต่ก็ขอกลับไปเล่นอีก และเล่นอีก เบ็ดเสร็จเล่นไป 4 รอบ ^^

20160922-_mg_2161ทั้งภูมิและป๊าบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกมาก.ก..ก..ก.. อยากให้แม่ไปลอง เอิ่ม.ม..คราวที่แล้วขนาดไม่เร็ว ไม่หวือหวาเท่านี้แม่ยังจะแย่เลย ไม่เอาด้วยหรอก ^^’

ไหนๆ ก็พูดถึงเครื่องเล่นแรงๆ แล้วเรามาต่อด้วย ‘Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars’ เลยดีกว่า เจ้าตัวนี้ภูมิก็ชอบมากคราวที่แล้วก็เล่นไป 2 รอบ แต่เล็กยังไม่เคยเล่นและก็ไม่ได้คิดอยากจะเล่น (เล็กเป็นพวกไม่ค่อยกล้าเล่นเครื่องเล่นที่มันหวาดเสียวอยู่แล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งไม่กล้าเล่น ^^’) คราวนี้ 2 พ่อลูกทั้งฉุดทั้งดันบอกให้ลองดู สนุกมาก ภูมิบอกว่าอันนี้ภูมิให้คะแนนความหวาดเสียวน้อยกว่า ‘Hyperspace Mountain’ นะ แม่ต้องลอง – อ่ะลองก็ลอง ^^ ลองแล้วปรากฏว่า…สนุกดีค่ะ! ชอบๆ ^^ มันจะมีช่วงพีคที่หวาดเสียวมากๆ อยู่ประมาณซัก 1 – 2 นาทีเท่านั้น ใครที่ไม่ค่อยชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวแต่อยากเล่นอะไรที่สนุกๆ ตื่นเต้นบ้าง ‘Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars’ เป็นคำตอบได้นะคะ ^^

เครื่องเล่นอีกตัวที่เล็กยังไม่กล้าลอง แต่สองพ่อลูกชอบมากก็คือ ‘Toy Soldier Parachute Drop’ เครื่องเล่นจะพาผู้เล่นขึ้นไปสูงราวๆ 80 ฟุต แล้วก็ทิ้งดิ่งลงมาราวกับว่าเราจะตกกระแทกพื้น >.< ภูมิบอกขึ้นไปแล้วรู้สึกเหมือนตัวลอยได้ เสียวแต่สนุกดี อันนี้เล็กก็ขอบายค่ะไม่กล้าลองจริงๆ ^^

20160922-_mg_2131

มาที่เครื่องเล่นแบบสนุกๆ ที่น้องภูริ (3 ขวบ) เล่นได้กันบ้างนะคะ ที่ดีสนีย์แลนด์มีเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ อยู่หลายอย่างเหมือนกันค่ะ ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่เด็กเล็กเล่นได้และเด็กโตอย่างน้องภูมิ (8 ขวบ) ก็ยังเล่นสนุกอยู่ค่ะ เริ่มจาก ‘Dumbo the Flying Elephant’ กับ ‘Orbitron’ สองอันนี้จะคล้ายๆ กันค่ะ เป็นที่นั่งที่หมุนไปรอบๆ และให้ผู้เล่นบังคับที่นั่งขึ้น-ลงได้ นั่งตากลมสบายๆ เป็นเครื่องเล่นที่เล่นไปถ่ายรูปไปได้ค่ะ ^^

หรือจะให้สนุกตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิดก็เป็นถ้วยหมุน ‘Mad Hatter Tea Cups’ เด็กๆ สนุกมากค่ะ หมุนกันมึน ^^

20160921-_mg_0946

‘Slinky Dog Spin’ ก็เป็นเครื่องเล่นที่น้องภูริเล่นได้นะคะ ตอนแรกยืนดูอยู่ข้างนอกก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เพราะเล็กเองก็ยังไม่เคยเล่น เล็กถามเจ้าหน้าที่ว่าเด็กเล็กอย่างน้องภูริเล่นได้ไม๊ เจ้าหน้าที่พยักหน้า เราเลยลุย! ^^ เครื่องเล่นนี้ไม่มีอะไรหวือหวาค่ะ จะมีก็แค่เวียนหัวสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา เด็กๆ ชอบค่ะ ^^

20160922-_mg_2151

ถ้าไปเที่ยวในวันที่แดดจัด (เหมือนคราวนี้ที่เราไป) หลบร้อนพาเด็กๆ ไปเครื่องเล่นในห้องแอร์ก็ได้นะคะ มีเครื่องเล่นหลายอย่างเลยค่ะที่เป็นเครื่องเล่นสบายๆ เด็กเล็กเด็กโตก็สามารถเพลิดเพลินด้วยกันได้ เช่น ไปเยี่ยมชมคฤหาสน์และของสะสมโบราณที่ต้องมนต์ของลอร์ดเฮนรี่ มิสติก ใน ‘Mystic Manor’  อันนี้แฟนตาซี สวยงามและสนุกมากค่ะ (น้องภูริชอบ ออกมาเลยได้ตุ๊กตาลิงอัลเบิร์ตติดมือกลับบ้านมาด้วย ^^)

เครื่องเล่นต่อไปเด็กผู้ช่ายน่าจะชอบมากๆ เลยค่ะ ‘Buzz Lightyear Astro Blasters’ ขับเคลื่อนยานรบ XP-38 สเปซครูเซอร์ที่หมุนได้ 360 องศา เข้าไปต่อสู้กับเซิร์ก ด้วยอาวุธปืนเลเซอร์ สำหรับเด็กโตอย่างน้องภูมิเขาจะเล่นอย่างสนุกสนานเพื่อเก็บคะแนนอย่างจริงจัง ส่วนเด็กเล็กอย่างน้องภูริก็ยิงมั่วๆ ไป แค่มีไฟวื้บว้าบกับเสียงตี้ดๆ ต้าดๆ ก็สนุกมากแล้วค่ะ (ขอเล่นซ้ำด้วย ^^)

20160927-buzz02-2

สำหรับเด็กผู้หญิงหรือเด็กที่เล็กกว่าน้องภูริ ก็ไปนั่งโหลน้ำผึ้งเข้าไปผจญภัยในโลกแสนสนุกของหมีพูห์ ใน ‘The Many Adventures of Winnie the Pooh’ ได้นะคะ สนุกสนานแบบเบาๆ ค่ะ เสร็จแล้วเดินต่ออีกนิดไปล่องเรือชมตุ๊กตาเด็กๆ จากทั่วโลกขับขานบทเพลง “It’s a Small World (after all)” ที่ “It’s a Small World” ล่องเรือเพลินๆ เพลงเพราะๆ แอร์เย็นๆ คุณพ่อคุณแม่อย่าเผลอหลับนะคะ ^^

เด็กๆ ที่ชอบแนวผจญภัยสนุกๆ อย่าลืมไปล่องเรือ ‘Jungle River Cruise’ นะคะ เข้าไปผจญภัยในป่าลี้ลับที่เต็มไปด้วยอันตรายทั้ง จระเข้, งู, แมงมุมพิษและสัตว์ป่ามากมาย ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นไม่ใช่ของจริงนะคะ แต่เหมือนจริงจนรู้สึกตื่นเต้นทีเดียว อันนี้เล่นได้ทุกวัยค่ะทั้งภูมิและภูริชอบมาก

20160922-_mg_2111

มาดูเรื่องของโชว์กันบ้างนะคะ โชว์ที่เป็นสุดยอดห้ามพลาดเลยก็คือ โชว์ของ Disney Storybook Theater ซึ่งตอนนี้จะเป็นโชว์ชุด “Mickey and the Wonderous Book” การแสดงที่จะพาเราเข้าไปในโลกของหนังสือนิทานคลาสสิคของดีสนีย์ บอกได้เลยค่ะว่าสุดอลังการ ตระการตาจริงๆ ดูแล้วมีความสุขมาก.ก..ก…ค่ะ ใครไปเที่ยวห้ามพลาดเลยนะคะ เล็กชอบอันนี้มากที่สุด ^^ <3

20160921-_mg_1744

ส่วนอันนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชว์ได้หรือเปล่านะคะ เราเข้าไปนั่งชมเฉยๆ แต่สนุกดีค่ะ ‘Mickey’s PhilharMagic’ การผจญภัยไปกับโลกมายาของมิคกี้แบบ 3 มิติ ใส่แว่นตากันคนละอันดูสนุกทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ เด็กเล็กๆ อย่างน้องภูริดูไปก็เอามือออกมาไขว่ขว้าภาพ 3 มิติ ที่เขาเห็นลอยอยู่ตรงหน้าไปด้วย สนุกมากๆ ค่ะ ^^

และก็มาถึงไฮไลท์ความสุขของน้องภูมิในทริปนี้ การได้ร่วมฝึกเป็นเจได! ใน Jedi Training: Trials of the Temple ภูมิได้ใช้ ไลต์เซเบอร์ฟาดฟันกับดาร์ธ เวเดอร์ จริงๆ สำหรับน้องภูมิ มันเจ๋งสุดๆ อะค่ะ ^^ น้องภูมิเป็นแฟนสตาร์ วอร์สมาอย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่ 4-5 ขวบ (รู้เรื่องราวของมหากาพย์นี้ดีกว่าแม่เยอะเลยค่ะ)

ช่วงนี้โซน Tomorrow Land ของดีสนีย์ จัดเป็นธีมสตาร์ วอร์ส น้องภูมิเดินเข้ามาในโซนนี้แล้วทุกอย่างมันใช่ไปหมดอะค่ะ ได้เห็นยาน X-Wing ใกล้ๆ ได้กระทบใหล่ ได้ใกล้ชิดกับชิวบาคก้าคู่หูของฮานโซโล และ R2D2 แถมๆ เดินๆ อยู่ก็เจอผู้กองฟาสม่าพร้อมกองทัพสตอร์มทรูเปอร์อีก ดีนะวันนั้นน้องภูมิใส่เสื้อ Stormtrooper พอดี เลยปลอดภัย ^^’ น้องภูมิสนุกมากอยู่แถวนี้ได้ทั้งวันอ่ะค่ะ ^^

20160921-_mg_1558

น้องๆ ที่มีอายุ 4-12 ปีสามารถเข้าร่วมได้ฝึกเป็นเจไดจิ๋วได้นะคะ เขาจะจัดเป็นรอบๆ รอบละประมาณ 20 คน ให้เช็ครอบและแจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนเลยตั้งแต่มาถึงค่ะ เจ้าหน้าที่จะให้บัตรลงทะเบียนที่ระบุรอบที่เราจะได้ฝึก (และร่วมแสดง) แล้วพอใกล้ๆ ถึงเวลาเราก็มารับไลต์เซเบอร์และสวมเสื้อคลุมเจไดเพื่อเตรียมฝึกและต่อสู้กับพวก Dark Side ^^ เล็กนั่งดูเด็กๆ แล้วมีความสุขมากค่ะ คือหน้าตาเด็กๆ นี่อินกันมาก ภูมิเล่นเสร็จแล้วเล็กถามภูมิว่า “ตอนที่สู้กับดาร์ธ เวเดอร์ นี่ลูกคิดว่าลูกเป็นเจไดจริงๆ รึป่าว” น้องภูมิพยักหน้าแล้วยิ้มเขินๆ ชูสติ๊กเกอร์ที่ได้หลังจากผ่านการฝึกเป็นเจไดให้แม่ดูอย่างภาคภูมิใจ ^^

20160921-_mg_1668

ถ้ายังพอมีเวลาเหลือ อาจจะพาเด็กๆ นั่งรถไฟ ‘Hong Kong Disneyland Railroad’ เล่นได้นะคะ รถไฟของเมืองในฝันที่สวยงาม นั่งชิวๆ ชมวิวรอบสวนสนุก แถมแอบมีเซอร์ไพรส์น่ารักๆ ระหว่างทางด้วย ยังไงเตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ให้พร้อมนะคะ ^^

นี่เป็นบันทึกการให้คะแนนเครื่องเล่นและการแสดงต่างๆ ที่น้องภูมิ (8 ขวบ) ทำไว้ค่ะ ^^

ใครมาเที่ยวที่ดีสนีย์แลนด์แล้วอยากมีเวลาพาเด็กๆ เล่นเครื่องเล่นอย่างเต็มที่ แนะนำว่าพักในโรงแรมของดีสนีย์แลนด์เลยก็จะสะดวกมากๆ ค่ะเขาจะมีแพ๊กเกจแบบรวมที่พักและตั๋วเข้าสวนสนุกด้วยนะคะ ลองเช็คดูค่ะ โพสหน้าจะเขียนเล่าให้ฟังเกี่ยวกับที่พักบ้าง ติดตามนะคะ :)

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะคะ ***


ตอนนี้ ดิสนีย์แลนด์มีโปรโมชั่นห้องพักกับส่วนลดสูงสุดถึง 35% และสามารถอัพเกรดห้องพักได้ฟรี! ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2560 นะคะ ดูรายละเอียดและจองผ่านลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

https://www.hongkongdisneyland.com/th/offers-discounts/limited-time-room-offer/?CMP=BAC-CoopXmas17BlPlThThHtlLtdRmOfr