เกือบ 5 เดือนที่น้องภูมิเรียนปิงปอง เขาอยากเก่งเหมือนพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่เรียนก่อนหน้าเขา (ส่วนใหญ่เรียนมามากกว่า 1 ปี) สำหรับภูมิ การตีปิงปองเก่งขึ้นคือ การตีลูกได้แรง การตบ การตีท่ายากต่างๆ และการชนะในการเล่นแข่งกัน
น้องภูมิจะบอกผมด้วยความภูมิใจทุกครั้งที่เขาสามารถตีลูกแบบยากๆ (เท่ๆ) ได้
ที่ผ่านมา ภูมิยังคงรู้สึกแย่แทบทุกครั้งที่เขายังไม่สามารถชนะคนอื่นได้ สลับดีใจกับแต้มที่ได้เป็นครั้งคราว และถึงแม้ว่าจะตีได้ดีขึ้นมาก (ครูบอก) แต่ความมั่นใจในตัวเองของเขาจะขึ้นอยู่กับผลแพ้ชนะในการตีแข่งกับคนอื่น
ผมบอกภูมิอยู่เสมอๆ ว่า เขาน่าจะใช้เวลาฝึกซ้อมกับตัวเองในเรื่องพื้นฐานให้มากๆ เช่น เดาะปิงปอง เพราะจะช่วยให้เขาเล่นได้ดีขึ้น แต่ภูมิรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ และไม่สนใจที่จะฝึกฝนเลย บางครั้ง หลังจากบอกไป กลับทำให้เขารู้สึกไม่ดี (ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะเขารู้ว่าตัวเองทำไม่ได้ และไม่อยากยอมรับมัน)
ผมรู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้กับเขา เพราะเชื่อลึกๆ ว่าเขาเองก็อยากทำให้ได้ แต่ยังยอมรับไม่ได้ว่ามันต้องใช้เวลา และต้องค่อยๆ ฝึกไป สำหรับผม การเป็นส่วนหนึ่งของเดินทางของลูก คือการเดินไปกับเขา ไม่ใช่ยืนรอเอาใจช่วยระหว่างทาง หรือคอยลุ้นอยู่ที่ปลายทาง
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผมชวนน้องภูมิเดาะปิงปองแบบมีเป้าหมายกัน แต่เป็นเป้าหมายที่จำนวนครั้งไม่สำคัญเท่าคุณภาพของการเดาะ เกณฑ์ในการเดาะเล่นของเราคือ ให้เดาะตามจังหวะเครื่องเคาะจังหวะ (metronome) เพราะสิ่งสำคัญคือการควบคุมลูกปิงปองให้ได้ดั่งใจ
ครั้งนี้ผมชวนภูมิด้วยท่าทีที่ไม่คาดหวังเรื่องผลลัพธ์ เน้นที่ความตั้งใจและความสุขในการทำ ให้เขาโฟกัสที่การเดาะแต่ละครั้งมากว่าจำนวนครั้ง ที่เหลือค่อยว่ากันตามจังหวะของตัวเขาเอง น้องภูมิตอบรับแผนการฝึกเดาะปิงปอง 1 เดือนของเราด้วยความยิ้มแย้ม
วันแรกที่เราเริ่มทำ การเดาะตามจังหวะเพียง 10 ครั้งก็เป็นเรื่องยากสำหรับภูมิแล้ว
เราจึงตั้งเป้าหมายสัปดาห์แรกไว้เพียง เดาะ 20 ครั้ง 3 ชุดทุกวัน
และเพิ่มเป็น 30 ครั้ง 3 ชุดในสัปดาห์ที่สอง
จนสัปดาห์ที่ 4 จะเป็นการเดาะ 50 ครั้ง 3 ชุด
แต่ละวัน ผมจะจดจำนวนครั้งที่ภูมิเดาะได้สูงสุดไว้ในปฏิทินให้เขาได้เห็น บางวันต้องขีดจำนวนที่จดว่าเดาะได้สูงสุดทิ้งไป เพราะเขาเดาะได้มากกว่าที่คิดว่าได้มากที่สุดแล้ว
ผมพบว่าการมีเป้าหมายที่คุณภาพของการเดาะ และเสียงหัวเราะระหว่างเรามีผลต่อพัฒนาการของภูมิมาก ผมจะเดาะเล่นไปกับเขาด้วย ทำตัวเหมือนเพื่อนร่วมซ้อม และในครั้งที่เขาทำไม่ค่อยได้ เราแซวเล่นกันเพื่อให้ความยากเย็นเป็นเรื่องขบขัน
หลังจากผ่านสัปดาห์แรก ภูมิบอกเองว่าต้องปรับเป้าหมายของสัปดาห์ที่สอง และสัปดาห์ต่อๆ ไปใหม่ เพราะเขาทำได้ดีกว่าที่คิดไว้ครั้งแรกมาก ผมถามความคิดเห็นจากเขาว่าควรเป็นเท่าไหร่ดีแทนที่จะกำหนดให้เขาใหม่ ภูมิตัดสินปรับเพิ่มจำนวนครั้งและจำนวนชุดไปอีกเท่าตัว
เราขีดฆ่าเป้าหมายเดิมทิ้ง และเขียนเป้าหมายใหม่ไว้ข้างๆ กันเพื่อให้ตัวเขาเองเห็นว่าเขาพร้อมที่จะเพิ่มระดับความท้าทายให้ตัวเองแล้ว
ตอนนี้เราเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 และวันนี้ภูมิสามารถเดาะได้สูงสุด 750 ครั้ง แถมบอกเองว่าอยากทำให้ได้ 1,000 ครั้ง
เวลาที่เขาฝึกกับตัวเอง สิ่งสำคัญไม่ใช่ชัยชนะเหนือคนอื่น แต่เป็นความสุขที่ได้ชนะตัวเอง
— ภูมิในวัย 8 ขวบ, สิงหาคม พ.ศ.2559