อิ่มอร่อย หลับสบาย จบหมดได้ในดิสนีย์แลนด์เลย

ทริปนี้เราพักกันที่ Disney’s Hollywood Hotel กันนะคะ คราวที่แล้วก็พักที่นี่แต่ยังไม่มีโอกาสเขียนเล่าให้ฟัง โพสนี้เล็กจะเขียนเล่าให้ฟังคร่าวๆ นะคะ เผื่อใครอยากจะพาเด็กๆ มาเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ จะได้มีข้อมูล ^^

ดีสนีย์แลนด์ฮ่องกง จะมีส่วนของสวนสนุกและโรงแรมอยู่ในพื้นที่เดียวกันรวมเรียกว่า Disneyland Resort ปัจจุบันมีโรงแรมอยู่ 2 แห่งคือ Hong Kong Disneyland Hotel กับ Disney’s Hollywood Hotel และกำลังมีการก่อสร้างโรงแรมอีก 1 แห่ง ที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้  โดยโรงแรมใหม่จะตั้งอยู่ระหว่าง 2 โรงแรมเดิมค่ะ

ที่ตั้งของโรงแรมทั้งหมดจะอยู่รอบนอกของสวนสนุก ไม่ห่างจากสวนสนุกมากนัก โดยเขาจะมีบริการรถ Shuttle Bus วิ่งรับส่งตลอดทั้งวัน ถ้าใครอยากจะใช้เวลาในสวนสนุกแบบเต็มที่ การพักโรงแรมในนี้เลยก็จะสะดวกมากค่ะ อยู่ชมดอกไม้ไฟตอนหัวค่ำจนจบแล้วค่อยกลับออกมาได้ ไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองให้เหนื่อย นั่ง Shuttle Bus ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงโรงแรมค่ะ

20160920-_mg_0401

Disney’s Hollywood Hotel จะเป็นโรงแรมที่ออกแบบตกแต่งในสไตล์ Art Deco มีกลิ่นอายยุคทองของ Hollywood ในความทรงจำ ช่วงยุค 60s สวยคลาสสิคค่ะ ห้องพักทุกแบบสามารถรองรับแขกเข้าพักได้สูงสุดถึง 4 คน เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัวมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเตียงเดียวคิงเบดหรือจะเป็นดับเบิ้ลเบด 2 เตียงก็นอนสบายค่ะ (ครอบครัวเรา 4 คนนอนมาแล้วทั้ง 2 แบบ ^^)  ถ้ามีเด็กเล็กก็สามารถแจ้งขอ Baby Cot ได้นะคะ ครั้งที่แล้วตอนภูริอายุขวบนิดๆ ก็ได้ใช้บริการนี้ค่ะ :)

20160920-_mg_0409

ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานโรงแรม ทั้งทีวี (มีช่องการ์ตูนของดีสนีย์ให้เปิดดูได้ทั้งวันค่ะ), ตู้เย็น, อุปกรณ์ชงชา-กาแฟ, ไดร์เป่าผม, ตู้เซฟ, Wifi ใช้ได้ทั่วโรงแรม และทุกห้องจะมีรองเท้าสวมในบ้านให้ 4 คู่ เป็นของผู้ใหญ่ 2 คู่ เด็ก 2 คู่ค่ะ รองเท้านี้จะมีลายเส้นรูปหัวมิคกี้ด้วยนะคะ และเราสามารถเก็บกลับบ้านได้เลยค่ะ เขาให้แขกเป็นที่ระลึก ^^

20160928-_mg_2381

ของที่ระลึกอีกอย่างที่เล็กชอบมากและว่ามันน่ารักดีก็คือ ชุดสบู่อาบน้ำในห้องน้ำ สบู่เหลวจะบรรจุอยู่ในขวดที่มีฝาเป็นรูปหัวมิคกี้ ทั้งสบู่เหลวและสบู่ก้อนผลิตโดย H2O+ อเมริกา จัดทำพิเศษสำหรับ Disneyland โดยเฉพาะ มีกลิ่นหอมแบบที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ แขกจะได้กลิ่นนี้ตั้งแต่เดินเข้า Lobby มาเลยค่ะ ^^ ชุดเครื่องอาบน้ำทั้งหมด (มีแปรงสีฟันให้ด้วย 4 ชุดค่ะ) ใส่ไว้ในถ้วยกระดาษปิดฝาด้วยหัวมิคกี้ซึ่งทั้งหมดนี้เราเก็บกลับบ้านได้เลยนะคะ น่ารักมากๆ ^^ <3 น้องภูริยังขออาบน้ำด้วยสบู่เหลวมิคกี้อยู่เลยค่ะ พออาบเสร็จก็บอกว่าภูริอยู่ที่ Hollywood Hotel

อ้อ..ชั้นล่างของโรงแรมจะมีร้านขายสินค้าดีสนีย์ให้เลือกซื้อด้วยนะคะ ช้อปของฝากนาทีสุดท้ายได้ตรงนี้เลยค่ะ ^^ สินค้าราคาเท่ากับในสวนสนุก แม้จะไม่ได้มีให้เลือกเยอะเท่าในสวนสนุกแต่ก็มีหลากหลายมากค่ะ

ร้านอาหารใน Disneyland Resort ก็มีให้เลือกหลากหลายค่ะ ถ้าชอบอาหารจีนที่โรงแรม Hong Kong Disneyland Hotel จะมีห้องอาหารจีน ‘Crystal Lotus’ ห้องอาหารจีนแบบโต๊ะจีนสุดหรู ดูหน้าตาอาหารสิคะว่าน่าทานขนาดไหน ส่วนรสชาติก็ไม่แพ้หน้าตาเลยค่ะ ทั้งของคาวของหวาน แถมเขาจะมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ในการตกแต่งอาหารเช่น ติมซำดีสนีย์ หรือซุปหอยเชลล์ที่มีฟักเขียวตัดเป็นรูปหน้ามิคกี้ เนี้ยบสวยเชียวค่ะ เจ้าซุปที่ว่านี่เป็นจานอร่อยติดดาวในใจเล็กเลยค่ะ กลมกล่อมมาก.ก.ก…. <3 ลุงเด้งพามาทานที่นี่ 2 ครั้งแล้ว ไม่เคยผิดหวังเลยค่ะ อร่อยทุกจาน บรรยากาศชนะเลิศ ^^

20160920-_mg_0346

ร้านอาหารจีนอีกร้านที่อยากแนะนำก็คือ ‘Plaza Inn’ ค่ะ ร้านนี้จะอยู่ในสวนสนุกนะคะ เป็นร้านอาหารในสวนสนุกที่เปลี่ยนภาพความคิดเดิมๆ ของเล็กเลยค่ะ ก่อนหน้านี้คิดว่าอาหารในสวนสนุกก็คงจะมีแต่พวกอาหารจานด่วน แต่ที่นี่เขาเสริฟอาหารจีนแบบโต๊ะจีนในภัตาคารหรูเลยค่ะ ดูเมนูและหน้าตาอาหารสิคะ ถ้าไม่ติดว่าต้องพาเด็กๆ ไปตามเก็บเครื่องเล่นที่เขาอยากเล่น เราคงนั่งละเลียดจิบชา ทานอาหารตรงนี้กันนานๆ เลยค่ะ

20160921-_mg_1341

สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปกับเหล่าคาแรคเตอร์แบบใกล้ชิด แนะนำให้จัดโปรแกรมพาเด็กๆ แวะไปทานอาหารบุฟเฟท์ที่ ‘Enchanted Garden’ โรงแรม Hong Kong Disneyland Hotel ซักมื้อนะคะ เป็นประสบการณ์และความทรงจำที่พิเศษมากสำหรับเด็กๆ เลยล่ะค่ะ เหล่าคาแรคเตอร์จะแวะเข้ามาทักทายและถ่ายรูปกับเด็กๆ ตามโต๊ะอย่างเป็นกันเอง น้องภูริกลับมาแล้วยังเล่าให้คนอื่นฟังเลยค่ะว่ามินนี่มาทานข้าวกับภูริ ^^

20160921-_mg_0754

20160921-_mg_0818

20160921-_mg_0842

20160921-_mg_0813

หรือถ้าพักที่ Disney Hollywood Hotel แล้วไม่อยากไปไหนไกล ที่โรงแรมก็มีห้องอาหารสไตล์บุฟเฟท์เหมือนกันค่ะ ชื่อว่า ‘Chef Mickey’ มีอาหารมากมากหลายอย่างให้ลิ้มลอง ทั้งอาหารจีน อาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น ขนม ของหวานอีกเพียบ อิ่มอร่อยพุงกางกันไปเลยค่ะ ^^ ทานเสร็จก็เดินไปขึ้น Shuttle Bus ไปสนุกกันต่อที่ดิสนีย์แลนด์ได้สบายๆ 

20160922-_mg_206820160922-_mg_206620160922-_mg_2063

20160922-_mg_2035

ระหว่างที่เราท่องเที่ยวไปในดินแดนแห่งความฝันกันนั้น ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับ ‘ก๊ะ’ ตุ๊กตากระต่ายตัวโปรดของภูริ ก๊ะหายไปจากห้องพัก! เกิดอะไรขึ้นกับก๊ะ? แล้วเรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไร ติดตามในโพสหน้านะคะ ^^

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะคะ ***


ราคาห้องพักที่นี่จะมีเป็นแพ๊คเกจหลากหลายรูปแบบนะคะ ทั้งแบบกลุ่ม แบบรวมอาหารเช้า แบบรวมตั๋วเข้าสวนสนุก และยังมีโปรโมชั่นตามเทศกาลอยู่เรื่อยๆ จองล่วงหน้ายังได้ลดราคาสูงสุด 35% ด้วยนะคะ ลองตรวจสอบได้ตามลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ ขอให้มีความสุขสนุกกับดีสนีย์แลนด์ดินแดนแห่งความฝันนะคะ :D

https://www.hongkongdisneyland.com/th/offers-discounts/limited-time-room-offer/?CMP=BAC-CoopXmas17BlPlThThHtlLtdRmOfr

Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (3)

วันที่ 2 (ต่อ) นะคะ ^^

เราทานอาหารกลางวันกันที่ Plaza Inn ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง พวกติ่มซำ เป็ดย่าง หมูย่าง และอื่นๆอีกมากมาย ที่เล็กชอบมากที่สุดคือเมนูธรรมดาๆ อย่างข้าวผัด คือ.. มันอร่อยไม่ธรรมดาอ่ะค่ะ ^^ ในรูปที่เห็นอาหารเยอะๆ เต็มโต๊ะนี่คือทานกับชาวคณะที่ไปด้วยกันนะคะ ไม่ใช่แค่บ้านเรา >.< อาหารจานใหญ่มาก ทานกันตั้งหลายคนยังเหลือเลย >.< อิ่มแล้วก็ไปลุยต่อที่ Grizzly Gulch แค่เดินเข้าไปถึงก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วค่ะ เพราะนอกจากโซนนี้จะตกแต่งให้เป็นเหมือนเมืองในดินแดนตะวันตกที่ดูย้อนยุคแล้ว เรายังได้ยินเสียงกรี้ด..ด.. ดังแว่วอยู่เป็นระยะๆ เสียงกรี้ดที่ว่านี่มาจากเจ้าเครื่องเล่นที่เรียกว่า Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars ซึ่งจะคล้ายๆ กับรถไฟเหาะ แต่มีทั้งเดินหน้าและถอยหลัง มุดเข้าถ้ำ >.< ดูแล้วท่าทางจะเสียวกว่า Space Mountain เมื่อวาน เล็กก็เลยขอผ่าน (อยู่เฝ้าน้องภูริดีกั่ว ^^’) น้องภูมิกับปาป๊าเลยพาเล่นกันไปซะ 2 รอบ (น้องภูมิเป็นคนขอเล่นอีกรอบ >.<“)


โซนต่อไปเป็นโซนที่เรียกว่า Mystic Point เมื่อเดินเข้าไปเราก็จะเห็นปราสาทของท่าน Lord Henry ที่สวยงามสูงเด่น เป็นปราสาทที่มีดีไซน์คล้ายๆ โบสถ์รัสเซีย สวยงามเก๋ไก๋ทีเดียวค่ะ ภายในเขาว่ามีงานศิลปะและของสะสมมากมายที่ท่าน Lord Henry ได้สะสมไว้ และเรากำลังจะเข้าไปชมใน Mystic Manorเรื่องเล่ามีอยู่ว่าท่าน Lord Henry เป็นนักเดินทางและชอบสะสมงานศิลปะและของหายาก เมื่อสะสมไว้มากก็เลยจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้พวกเราเข้าไปดู แต่ในของสะสมเหล่านี้มีกล่องเพลงวิเศษอยู่อันนึง ซึ่งท่าน Lord Henry กำชับเจ้าลิง Albert (ลิงของท่าน) ว่าห้ามไปแตะต้องกล่องเพลงนี้เด็ดขาด แต่… ขณะที่พวกเรากำลังจะเข้าไปชมของที่ท่าน Lord Henry สะสมไว้ เจ้าลิง Albert ดันไปเปิดกล่องซะนี่ >.< ผงวิเศษก็เลยปลิวกระจายไปทำให้ของสะสมทุกอย่างเกิดมีชีวิตขึ้นมา… อู้ว..ว.. ^^dnhk_34ต้องบอกว่า Mystic Manor เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆ ค่ะ สมแล้วที่เป็นหนึ่งในของเล่นยอดนิยมของที่นี่ เทคนิคแสง สี เสียงต่างๆ นั้นให้ความรู้สึกที่แฟนตาซีมากๆ เล็กชอบมากแถมน้องภูริก็เข้าไปเล่นได้ด้วย ^^

หลังจากให้พี่ภูมิได้พักกินไอศครีมมิคกี้เมาส์และน้องภูริได้งีบหลับช่วงบ่ายแล้ว เราก็เอาใจเด็กน้อยด้วยการพาไปนั่งเรือชิลๆ รอบโลกใน It’s a Small World โลกใบเล็กที่แสนสวยงาม (ตุ๊กตา) ทุกชาติ ทุกภาษา มาร่วมแบ่งปันความสุขด้วยเสียงเพลงและการเต้นรำ ดูเพลิดเพลินและเหมาะกับเด็กเล็กๆ อย่างน้องภูริมากเลยค่ะ ถูกใจเด็กน้อยขนาดว่าลุกขึ้นยืนเต้นตามจังหวะเพลงไปด้วยตลอดทาง แถมตอนที่หมดรอบแล้วยังเกาะที่นั่งไม่ยอมลงอีกต่างหาก >.<ใกล้ๆ กับ It’s a small world คือ The Golden Mickeys การแสดงบนเวทีอลังการที่หลายคนแนะนำว่าควรไปดู

ใครๆ ก็พูดกันว่า ถ้ามาเที่ยว Disneyland สิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยคือการดูโชว์ เพราะโชว์ที่นี่จะเป็นแบบจัดเต็มมากๆ และนี่ก็เป็น Stage Show โชว์แรกและโชว์เดียวที่เราได้ดูในทริปนี้เลยค่ะ The Golden Mickeys การแสดงชุดนี้จะพาเราย้อนกลับไปสัมผัสกับภาพยนตร์การ์ตูนของดีสนีย์หลายต่อหลายเรื่องที่เราเคยประทับใจ ทั้ง Tarzan, Mulan, Beauty and the Beast, Toy Story ฯลฯ ทั้งเสียงเพลง แสง สี เสียง และลีลาของนักแสดงก็ทำให้เล็กรู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยกลับไปตอนที่เราได้ดูการ์ตูนเรื่องนั้นๆ  เป็นโชว์ที่สวยงามและน่าประทับใจจริงๆ ค่ะ :)เย็นนี้พวกเราไปทานอาหารค่ำกันที่ Main Street Conner Cafe อาหารสไตล์อเมริกัน พวกสเต๊กต่างๆ เนื้อเสต็กนุ่มมาก ล๊อบสเตอร์ก็เนื้อแน่นหอมหวานทีเดียว อร่อยมากๆ ค่ะ เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเพราะกล้องเราแบตหมด >.< ภาพอาหารที่เห็นข้างล่างมาจากกล้องของลุงเด้งค่ะ (ขอบคุณมากๆ เลยนะคะลุงเด้ง ^^) นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว ที่ได้ใจเรามากที่สุดก็เห็นจะเป็นเจ้าเครื่องดื่มที่เรียกว่า Paint the Night ที่มีลูกเล่นเป็นไฟรูปน้ำแข็ง และรูปหัวมิคกี้เมาส์ โดยไฟนี้จะสว่างเมื่ออยู่ในน้ำเท่านั้น :D น้องภูมิเก็บเจ้าไฟนี้กลับมาด้วย (ตอนนี้เอาไว้เล่นกับน้องตอนอาบน้ำ ^^)

ทริปนี้เราได้ทานอาหารใน Disneyland หลายมื้อ หลายร้าน เล็กกับคุณก๊อกมีความเห็นเหมือนกันคือ อาหารที่นี่อร่อยมากทุกอย่าง ทุกร้านเลย (เอ… หรือเราใช้พลังงานไปเยอะก็ไม่รู้ ^^’)เรากระเตงลูกเดินเที่ยวกันจนแทบจะหมดแรง แต่น้องภูมิก็อยากจะอยู่ดูดอกไม้ไฟก่อนกลับ แล้วเราก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ดอกไม้ไฟที่จุดตลอด 20 นาทีนั้นสวยงามและตระการตาจริงๆ ดูไปร้องอู้หูกันไปจนจบเลยค่ะ ถ้าไม่ได้รอดูคงจะเสียดายมาก >.< เราไม่ได้ถ่ายรูปดอกไม้ไฟไว้เลย เพราะนอกจากกล้องจะแบตหมดแล้วคนที่รอดูยังเยอะมาก คุณก๊อกต้องอุ้มน้องภูมิ เล็กอุ้มน้องภูริยืนดูจนจบเลยค่ะ ^^’

ตอนเดินกลับออกมาขึ้นรถบัส น้องภูมิหันมาถามเล็กด้วยน้ำเสียงแบบใจหายว่า “แม่ครับ พรุ่งนี้เราจะไม่ได้มาที่ดิสนีย์แลนด์อีกแล้วเหรอ” เล็กเข้าใจความรู้สึกเบื้องหลังประโยคนี้ดี ก็เลยต้องช่วยดึงความรู้สึกดีๆ ของเด็กน้อยกลับมาด้วยการตอบกลับไปว่า “ใช่แล้ว ก็พรุ่งนี้ เราจะไป Space Museum กันไง” ขอบคุณพระเจ้า น้องภูมิร้องตอบมาว่า “เย้!!” :D

เล็กกับคุณก๊อกเชื่อว่าประสบการณ์สองวันสองคืนที่ Hong Kong Disneyland ครั้งนี้คงจะอยู่ในใจของเด็กชายภูมิวัยใกล้ 7 ขวบคนนี้อีกนาน

ครอบครัวเราขอขอบคุณลุงเด้งและป้าไก่ hongkongfanclub มากๆ เลยค่ะที่ชวนครอบครัวเราไปเที่ยวด้วย และขอบคุณน้องๆ Blogger ทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ ให้กับครอบครัวของเราโดยเฉพาะเด็กๆ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ :Dหลังจากออกจาก Disneyland แล้ว ครอบครัวเรายังอยู่เที่ยวต่อที่ฮ่องกงอีก 2 วัน โพสต่อไปจะมาเล่าเกี่ยวกับการผจญภัยในฮ่องกงของครอบครัวเรานะคะ :)

อ่านตอนอื่นในทริปนี้ได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ

• Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (1)
• Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (2)

#hkdisneyland #100choicesoffun #thaiairasia #hongkongfanclub