ความน่ารักในดิสนีย์แลนด์ที่อยากเล่าให้ฟัง

โพสที่แล้วทำเอาเสียน้ำตากันไปหลายคนเลย วันนี้มาอ่านเรื่องน่ารักๆ กันบ้างนะคะ ^^

ดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกในฝันของใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าเขาพยายามจะให้ทุกคนที่มาเที่ยวได้รับความสนุกและมีความสุขกลับไป  เรื่องของความสนุกนั้นเราก็คงจะได้รับกันตรงๆ จากเครื่องเล่นและโชว์ทั้งหลายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของความสุขเล็กคิดว่ามีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่ผสมผสานกันและทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น เรื่องที่เล็กจะแบ่งปันในโพสนี้คือสิ่งละอันพันละน้อยที่เราได้รับและรู้สึกว่าทุกอย่างรวมกันแล้วทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่นี่ :D

20160920-_mg_0452

ครั้งนี้ที่เราไปดิสนีย์แลนด์ น้องภูริอายุ 3 ขวบพอดี และโตพอที่จะไม่ยอมนั่งรถเข็นง่ายๆ ถ้าไม่หลับก็ไม่ค่อยจะยอมนั่ง เราเลยตัดสินใจกันว่าจะไม่เอารถเข็นของภูริไปด้วย เพราะคิดว่าน่าจะไม่ได้ใช้ แต่เราลืมไปว่าดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ และแม้ว่าภูริจะชอบเดินเองเขาก็ยังเป็นเด็กเล็กที่เดินได้ไม่อึดเท่าพี่ภูมิ >.< แค่วันแรกที่เรามาถึง ขนาดว่าเราไม่ได้เดินกันมากเท่าไหร่ เราก็เริ่มเห็นแววแล้วว่ารถเข็นยังจำเป็นอยู่ เพราะพอภูริเริ่มเมื่อยปาป๊ากับแม่ก็ต้องแข็งแรงขึ้นมาทันที… เฮือก.. 13 กิโล =_=’

20160921-_mg_0898

แม่ขอแข็งแรงวันแรกวันเดียวก็พอละกันนะภูริ ^^’ วันที่สอง พอเข้าสวนสนุกปุ๊บเล็กก็เดินตรงปรี่ไปที่สถานีดับเพลิงทันที – – ที่ดิสนีย์แลนด์ พอเข้ามาจะเหมือนเรามาอยู่ที่เมืองเมืองหนึ่ง เป็นเมืองน่ารักๆ แสนสวย มีสถานีรถไฟ ถนนหลักของเมืองจะมีร้านค้าน่ารักๆ มากมาย ทั้งร้านเบเกอร์รี่ ร้านถ่ายรูป ร้านกาแฟ ฯลฯ และเขาก็จะพยายามทำส่วนบริการอื่นๆ เช่นห้องพยาบาล จุดบริการลูกค้า ให้รวมอยู่ในเมืองแห่งนี้อย่างแนบเนียน

ดังนั้น ที่เล็กตรงไปยังสถานีดับเพลิงก็เพราะ ตรงนี้เป็นจุดให้ยืมรถเข็นนั่งเอง..ง…. ^^

รถเข็นที่นี่จะมีให้ยืมทั้งแบบของเด็กอายุประมาณ 2 ขวบขึ้นไป (น้ำหนักตัวไม่เกิน 25 กก. ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) และแบบรถเข็นนั่งวีลแชร์ของผู้ใหญ่ การยืมไม่ยุ่งยากค่ะแต่มีจำนวนจำกัดและไม่มีบริการให้จอง ใครมาก่อนได้ก่อนค่ะ แนะนำว่าถ้าครอบครัวไหนต้องการใช้รถเข็นให้รีบเดินเข้ามาตรงจุดให้เช่าก่อนเลยนะคะ (อย่าเพิ่งแวะถ่ายรูปเล่น ^^) ค่าเช่าอยู่ที่คันละ 100 HKD มัดจำอีก 100 HKD รวมเป็น 200 HKD ต่อวันค่ะ เงินมัดจำจะได้คืนตอนที่เราคืนรถเข็นพร้อมแสดงใบเสร็จ ถ้าไม่มีใบเสร็จจะไม่ได้เงินมัดจำคืนนะคะ ต้องเก็บใบเสร็จให้ดีค่ะ (ตอนคืนรถเล็กเกือบจะหาใบเสร็จไม่เจอ จำได้ว่าแยกเก็บไว้อย่างดีแล้ว แต่ดันไม่ได้จำว่าเก็บไว้ตรงไหน ต้องเปิดกระเป๋ารื้อค้นกันเลย คือ..เก็บดีมาก ^^’)

20160921-_mg_1955

รถเข็นเช่าของที่นี่สะอาดและแข็งแรงทีเดียวค่ะ ที่นั่งเป็นแบบเปิดโล่ง เด็กๆ ขึ้นลงได้สะดวก มีเบรค มีสายล๊อคเอวกันตก และมีหลังคากันเแดดเล็กๆ ให้ด้วย รูปทรงของสองล้อหลังจะดูเอียงแปลกๆ แต่เราค้นพบภายหลังว่ามันทำให้เข็นได้ง่ายและคล่องตัวมากในที่แคบๆ 

ตอนที่เราติดต่อเช่า เขาจะให้เราเขียนป้ายชื่อของเราเพื่อใส่ไว้ที่ด้านหลังรถเข็นด้วย เพราะเวลาเราไปเล่นเครื่องเล่นหรือดูโชว์  จะต้องจอดรถเข็นไว้ในจุดจอดรถเข็นบริเวณทางเข้า ซึ่งทั้งรถเข็นเช่าหรือรถเข็นส่วนตัวก็จะต้องจอดที่เดียวกันนี้ค่ะ ทีนี้รถเข็นเช่าแต่ละคันมันจะดูเหมือนๆ กัน การมีป้ายชื่อก็จะช่วยไม่ให้เราหยิบผิดคันค่ะ

วันที่สองของเราในดิสนีย์แลนด์ เราได้ใช้เจ้ารถเข็นนี่ตลอดทั้งวันยันมืดเลย เดินเมื่อยๆ เหนื่อยๆ ก็ยังใช้แขวนสัมภาระของเราได้อีกด้วย รถเข็นเด็กคันนี้ช่วยเบาแรงและทำให้เราเดินเที่ยวได้สนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ :D

20160921-_mg_1935

อีกเรื่องที่เล็กชอบมากคือบริการส่งของค่ะ เวลามาเที่ยวสวนสนุกอย่างนี้ เราต้องผลุบเข้าผลุบออกอยู่กับพวกเครื่องเล่นตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าเราก็คงไม่อยากหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังใช่ไม๊คะ แต่บางทีเราเดินผ่านร้านขายของตามโซนต่างๆ เราก็อยากจะซื้อของที่ระลึก/ของฝาก บ้างเหมือนกัน ความที่ไม่อยากแบกของเยอะเล็กเลยวางแผนว่า ไว้ค่อยไปเลือกซื้อของที่ร้านใกล้ๆ ทางออก ตอนที่เราจะกลับจะได้ไม่ต้องหอบให้พะรุงพะรังตอนเดินเที่ยวในสวนสนุก

แต่วันแรกเราอยู่จนค่ำและเด็กๆ ก็หมดสภาพมาก อีกทั้งของบางอย่างก็มีขายเฉพาะที่โซนนั้นๆ เท่านั้น สุดท้ายก็ไม่ได้เดินเลือกดูของอย่างที่ตั้งใจ วันที่สองเล็กเลยตัดใจคิดว่าไม่เป็นไร เจออะไรที่คิดว่าจะซื้อก็ซื้อเลย แล้วก็หิ้วกันไปด้วยละกัน

แต่..เราไม่ต้องทำอย่างนั้นค่ะ ^^

ตอนที่ชำระเงิน Cast ประจำเคาน์เตอร์แคชเชียร์เห็นว่าของที่เล็กซื้อเป็นถุงใหญ่ ก็ถามเล็กทันทีว่าอยากจะฝากของไว้ก่อนไม๊ เธอบอกว่า คุณสามารถรับของที่ซื้อได้ที่จุดรับของบนถนนหลักก่อนกลับ อืมม์..เล็กว่าเป็นความคิดที่ดีเลย เล็กสอบถามเรื่องเวลารับและรายละเอียดอื่นๆ จำไม่ได้ว่าคุยอะไรกันบ้างแต่อาจจะมีพูดเรื่องโรงแรม Cast ก็รีบถามทันทีเลยว่า คุณพักที่นี่หรือเปล่า เล็กตอบว่าใช่ๆ เราพักที่ Disney’s Hollywood Hotel เธอก็เลยบอกว่างั้นให้ส่งของไปให้ที่โรงแรมเลยดีไม๊ ของน่าจะไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น โอ้.. เอาสิคะ มันดียอดเยี่ยมไปเลย ถ้ารู้ว่ามีบริการอย่างนี้ก็ซื้อไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ถือแค่กระดาษไปรับของที่โรงแรมเท่านั้น เดินเที่ยวชิลๆ ไปได้เลยค่ะ :D

20160921-_mg_1353

พูดถึงเรื่องซื้อของ ในทริปนี้คุณแม่ของน้องเฌอแตมที่เดินทางไปกับเราด้วย เธอซื้อลูกโป่ง 2 ชั้น ให้ลูกสาวในวันแรกที่มาถึง (เป็นลูกโป่งเนื้อหนาอย่างดี ที่มีลูกโป่งหัวมิคกี้อยู่ข้างใน น่ารักมากๆ ค่ะ)  เธอก็บ่นว่าเสียดายจังตอนที่ซื้อลืมไปว่าเราไม่น่าจะเอาลูกโป่งขึ้นเครื่องบินกลับบ้านได้ แต่ถ้าต้องทิ้งก็น่าเสียดาย (ใบละร้อยกว่าเหรียญ ^^’) เธอลองกลับไปถาม Cast ที่ขายลูกโป่งว่ามีวิธีเอาลมออกได้หรือไม่ Cast ลองพยายามดูแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ จึงบอกว่าคุณเปลี่ยนเอาใบใหม่ที่ยังไม่ได้เป่าไปได้เลย …น่ารักมากๆ เลยใช่ไม๊คะ :D

ความน่ารักที่เป็นความลับอีกอย่างที่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือ Cast member (เจ้าหน้าที่) ทุกคนที่นี่มีสิ่งพิเศษซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่ว่า Cast คนนั้นจะมีหน้าที่อะไร ทำงานในส่วนไหน หากเราเดินเข้าไปถามเขาว่า “Do you have sticker?” ทุกคนจะพยักหน้า.. ยิ้ม… ล้วงกระเป๋ากางเกง และเอาสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ของดิสนีย์ยื่นให้เรา!!! (ความลับนี้เราก็เพิ่งรู้มาจากลุงเด้ง ^^) 

ขอได้ทุกคนจริงๆ นะคะ Cast ที่มีหน้าที่เก็บกวาดทำความสะอาดก็มี, Cast ที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มี, Mr. Hong – Housekeeping Manager ของโรงแรมที่พาก๊ะมาส่งคืนให้เราก็มีค่ะ แถม Cast แต่ละโซนก็จะมีสติ๊กเกอร์ที่เป็นเรื่องราวของโซนตัวเอง น้องภูมิสนุกมากกับการสะสมสติ๊กเกอร์แบบต่างๆ ทริปนี้ทั้งภูมิและภูริได้สติ๊กเกอร์กลับมาเพียบเลยค่ะ ใครไปเที่ยวลองขอสติ๊กเกอร์จาก Cast ดูนะคะ สนุกดี ^^

อีกความน่ารักที่คุณก๊อกกับเล็กชอบมากๆ เลยคือถังขยะที่นี่ค่ะ ^^ ถังขยะที่นี่นอกจากจะสะอาด (มาก) ตลอดเวลาแล้ว มันยังทำตัวกลมกลืนมากๆ ในทุกที่ที่มันตั้งอยู่ ไม่ว่าจะในเป็นเมืองอวกาศ โลกอนาคต เมืองเจ้าหญิงแสนหวาน เมืองลี้ลับในป่าลึก เมืองของเล่น ในโรงแรม ฯลฯ เขาจะออกแบบลวดลายสีสันที่เข้ากั๊นเขากันค่ะ หันไปเจอทีไรต้องยิ้มให้มันทุกทีเลยสิน่า ที่เก็บภาพมานี่คือบางส่วนเท่านั้นนะคะ ทุกใบสะอาดแบบยืนพิงได้เลยค่ะ :D

ความน่ารักๆ เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้หล่ะค่ะที่เล็กรู้สึกว่ามันประกอบกันแล้วทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่ดิสนีย์แลนด์ :D

โพสหน้าเล็กจะมาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจพิเศษของครอบครัวเราในเที่ยวบินขากลับ – น้องภูมิได้มีโอกาสเข้าไปในห้องนักบินและได้พูดคุยกับกัปตันด้วย ติดตามนะคะ :D

*** อ่านบล๊อกแล้วตามไปเจอกันได้บ่อยๆ ได้ที่ Facebook.com/bhoomplay นะคะ ***


ตอนนี้ ดิสนีย์แลนด์มีโปรโมชั่นห้องพักกับส่วนลดสูงสุดถึง 35% และสามารถอัพเกรดห้องพักได้ฟรี! ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2560 นะคะ ดูรายละเอียดและจองผ่านลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

https://www.hongkongdisneyland.com/th/offers-discounts/limited-time-room-offer/?CMP=BAC-CoopXmas17BlPlThThHtlLtdRmOfr

Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (1)

เมื่อสัปดาห์ก่อนครอบครัวเรามีโอกาสได้เดินทางไป Hong Kong Disneyland ตามคำชวนของลุงเด้ง ป้าไก่ Hong Kong Fan Club เพื่อสัมผัสบรรยากาศคริสตมาสใน Disneyland ที่เริ่มต้นขึ้นแล้วกันมาค่ะDisneyland ยังไม่เคยอยู่ในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของครอบครัวเราเลย เพราะเรามักจะมีเวลาเดินทางท่องเที่ยวกันแค่ระยะสั้นๆ การไปเที่ยวสวนสนุกขนาดใหญ่นั้นต้องใช้เวลาทั้งวันหรือมากกว่าหนึ่งวันจึงจะสามารถเที่ยวเล่นได้ทั่ว น้องภูมิก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ไปดิสนีย์แลนด์ พอลุงเด้งมาชวนไปเที่ยวเล่นบ้านคุณมิคกี้เมาส์แบบเต็มๆ 2 วัน 2 คืนอย่างนี้ มีหรือที่น้องภูมิจะปฏิเสธ >.<เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม. ครึ่งก็ถึงสนามบินฮ่องกง มาถึงอากาศกำลังเย็นสบายเลยค่ะ ประมาณ 24 องศาทริปนี้เราพักที่ Disney’s Hollywood Hotel หลังจากฝากกระเป๋าแล้ว เราก็ไปทานติมซำหน้าตาน่ารักๆ ที่ห้องอาหารจีนชื่อ Crystal Lotus ซึ่งอยู่ในโรงแรม Disneyland Hotel ค่ะอาหารที่นี่หน้าตาน่ารักสุดๆ >.< และอร่อยมากด้วย น้องภูมิชอบซาลาเปาหน้าการ์ตูนมากๆ หลังจากจัดการของตัวเองหมดแล้วก็มาหยิบเอาของปาป๊าไปกินอีก ^^ จานที่เล็กกับคุณก๊อกชอบมากชื่อว่า Wok-fried Shrimps and Disney Root Vegetables น่ารักเก๋ไก๋ตรงที่ผักต่างๆ ในจานจะตัดมาเป็นรูปมือมิคกี้ คลุกเคล้ามากับเนื้อกุ้งกรอบเด้ง รองเผือกทอดกรุบกรอบไว้ด้านล่าง เวลาตักทานจะรู้สึกว่าทั้งหมดนี่รสชาติมันช่างเข้ากันสุดๆ ^^ อีกจานนึงที่ชอบก็คือ Double-boiled Conpoy and Sea Whelk Broth เป็นหัวไชเท้าสอดใส้หอยเชลล์ตุ๋น ซึ่งทำมาออกมาเป็นหน้ามิคกี้เมาส์ ใส่เป๋าฮื้อด้วยรสชาติกลมกล่อมมากๆ เขียนถึงตรงนี้ยังนึกถึงรสชาติได้อยู่เลยค่ะ :Dเสร็จจากอาหารกลางวัน เรานั่งรถบัสจาก Disneyland Hotel มุ่งหน้าสู่ Disneyland Resort (ที่นี่จะมีรถบัสบริการฟรี วิ่งวนเพื่อรับส่ง 3 จุด คือ Disney’s Hollywood Hotel – Disneyland Hotel – Disneyland Resort ระยะห่างของแต่ละจุดประมาณ 5 นาที และรถบัสจอดรับทุกๆ 15-20 นาทีค่ะ)

พอเรามาถึง Disneyland Resort น้องภูมิดูสดชื่น ตื่นเต้นกว่าใคร เพราะนี่เป็นการมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ครั้งแรก ก่อนมาปาป๊าให้ข้อมูลน้องภูมิเพียงแค่ว่า “You’re gonna have fun like crazy!” :D พอเดินเข้าไปถึงด้านใน ก็ใกล้กับเวลาที่จะมีการแสดง Fantasy Parade เราจึงเตร็ดเตร่อยู่ที่ถนนสายหลัก (Main Street USA) เพื่อรอชมขบวนพาเหรดกันการแสดงทุกชุดในขบวนพาเหรดสวยงามและน่าประทับใจมากๆ ทั้งรายละเอียดของการตกแต่งขบวนรถ ชุดนักแสดงเสื้อผ้า หน้า ผม รอยยิ้ม และลีลาท่าทางของตัวการ์ตูนต่างๆเล็กคิดว่าเด็กๆ หลายคนที่ได้ดูอาจจะเชื่อจริงๆ ว่าเขาได้เห็นตัวการ์ตูนในดวงใจแบบตัวเป็นๆ เลยทีเดียว ที่เล็กชอบมาก..ก..ก.. ที่สุดคือเจ้าหุ่นทหารพลาสติกในการ์ตูนเรื่อง Toy Story ที่ทั้งชุดและท่าทางการแสดงเหมือนในการ์ตูนมากๆ เลยค่ะ ชอบๆ ^^จากถนนสายหลัก เราเดินตรงเข้าสู่ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา (ตามคู่มือเขียนว่าอย่างนั้น แต่สำหรับน้องภูมิ มันคือโลโก้ปราสาท Disneyland แบบที่เห็นใน DVD ก่อนดูการ์ตูน ^^ เหมือนเปี้ยบ)เมื่อเดินผ่านปราสาทเข้ามาก็จะพบกับ Fantasyland ซึ่งจะเป็นโซนที่หวานๆ น่ารักๆ เครื่องเล่นไม่หวือหวาเหมาะกับเด็กเล็กๆ เราเลือกเล่นช้างบิน Dumbo เป็นอันแรกเพราะคิวไม่ยาวมากนักและน้องภูริเล่นด้วยได้ :Dวันนี้เรายังไม่ได้เล่นอะไรมากนักใน Fantasyland เพราะน้องภูมิอยากจะไปที่ Tomorrowland มากกว่า (ตรงนี้คงไม่ค่อยน่าสนใจมากนักสำหรับเด็กผู้ชาย ^^’) ก่อนออกจาก Fantasyland เราแวะทานขนมเติมพลังกันที่ Royal Banquet Hall ได้ทานขนมหน้าตาน่ารักกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นเค้กราชินีเอลซ่า เจ้าหญิงอันนาและโอลาฟ ^^เข้าสู่ Tomorrowland น้องภูมิก็วิ่งปรู้ด..ด.. ไปที่เจ้า Space Mountain ทันที เพราะเป็นเครื่องเล่นหนึ่งที่น้องภูมิอ่านในคู่มือแล้วอยากเล่นมากๆ ลักษณะจะเป็นรถไฟเหาะในร่มสุดไฮเทค เหมือนกับว่าเราขับยานพุ่งทะยานไปในอวกาศ น้องภูริไม่สามารถเล่น Space Mountain ได้ เล็กก็เลยให้สองพ่อลูกเขาเข้าไปเล่นกัน ส่วนเล็กกับน้องภูริเดินเล่นรออยู่ข้างนอก

น้องภูมิออกมาจาก Space Mountain ด้วยสีหน้าฟินสุดๆ ร้องตะโกนบอกแม่ว่าภูมิอยากเล่นอีกๆ คุณก๊อกก็เลยอาสาอยู่กับน้องภูริให้เล็กเข้าไปเล่นบ้าง ตอนที่เล็กเข้าไปก็คิดว่ามันคงไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เพราะน้องภูมิเล่นได้ (และยังอยากเล่นอีก) แต่พอได้เข้าไปเล่นเองแล้วต้องบอกว่ามันหวาดเสียวมากทีเดียวค่ะ กรี้ดจนเจ็บคอ ลงมาแข้งขาอ่อนเลย ในขณะที่น้องภูมิหัวเราะร่าบอกภูมิชอบมาก อยากเล่นอีก >.< (ฟังแล้วแอบคิดในใจว่า ลูกชายคงจะเป็นเด็กโตแล้ว ในขณะที่เราคงจะเริ่มแก่แล้ว >.<)จากตรงนี้น้องภูมิดูแผนที่และวิ่งนำหน้าไปต่อกันที่ Autopia ซึ่งเป็นรถให้ผู้เล่นขับกินลมชมวิวไปตามไฮเวย์แห่งอนาคต โดยผู้เล่นจะต้องมีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 81 ซ.ม. (น้องภูริอดเล่นอีกแว้ว..ว.. >.<) และแม้ว่าเจ้าเครื่องเล่นนี้ไม่ได้หวาดเสียวอะไร แต่เล็กก็ไม่ได้เล่นเพราะคิวค่อนข้างยาว ใครจะมาเที่ยวอยากให้ดูแผนที่และวางแผนไว้ในใจด้วยนะคะว่าอยากเล่นเครื่องเล่นไหนบ้าง ถ้าอันที่อยากเล่นคิวยาว จะได้มีตัวเลือกไปเล่นอื่นที่ใกล้ๆ ก่อน เครื่องเล่นบางชนิดที่นี่จะบริการ Fast Pass เพื่อให้เราไปเล่นเครื่องเล่นอื่นก่อนและสามารถกลับมาเล่นได้เครื่องเล่นได้ใหม่ตามเวลาที่ระบุบนบัตร โดยที่เราไม่ต้องยืนเข้าคิวรอ อ่านรายละเอียดได้ที่คู่มือตรงทางเข้าเลยค่ะ

ระหว่างรอสองพ่อลูกไปขับรถเล่น เล็กเห็นว่าเครื่องเล่น Orbitron ที่อยู่ใกล้ๆ กันไม่มีคิว ก็เลยพาน้องภูริไปนั่งเล่นพลางๆ เจ้า Orbitron นี่เป็นเครื่องเล่นที่คล้ายๆ กับช้างบิน Dumbo ที่เราเพิ่งเล่นไปอ่ะค่ะ ต่างกันที่การตกแต่งจะเป็นรูปแบบยานอวกาศ และนั่งได้ลำละ 4 คน เหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ เพราะไม่หวือหวาตื่นเต้นมาก :D

ก่อนไปรอดูขบวนพาเหรด Disney Paint The Night เราพากันไปเล่น Buzz Lightyear Astro Blasters เป็นเครื่องเล่นสุดท้าย ซึ่งจะเป็นการสมมุติว่าเราเป็นเหล่า Space Ranger ที่ไปช่วย Buzz Lightyear ต่อสู้กับตัวร้าย Zurg เราจะนั่งไปในยานอวกาศและมีปืนเลเซอร์ให้ยิง ถ้ายิงโดนเป้าตัว ‘Z’ ที่กระจายติดไว้ตลอดเส้นทางก็จะมีคะแนนขึ้นที่หน้าปัดของเรา น้องภูมิสนุกสุดๆ เล่นแล้วเล่นอีก พอดีเป็นช่วงหัวค่ำคนไม่เยอะมาก เลยจัดไปแบบบเต็มอิ่ม 3 รอบ ^^ ปิดท้ายคืนนี้ด้วยขบวนพาเหรด Disney Paint The Night ที่งดงาม อลังการไม่แพ้พาเหรดเมื่อตอนบ่ายเลยค่ะ นักแสดงและขบวนรถถูประดับประดาไปด้วยไฟสีสันสดใส และมีลูกเล่นการเปลี่ยนสีของไฟที่แปลกตามากๆ คือ ผู้ชมคนไหนที่มี Paint brush ของเล่น (หาซื้อได้ในนั้นอ่ะค่ะ) ก็สามารถเอามาเล่นกับนักแสดงได้ คือเมื่อเอา Paint brush ไปแตะที่ตัวนักแสดง สีของไฟที่ตัวนักแสดงก็จะเปลี่ยนไป ไฮเทคสุดๆ >.< อากาศก็กำลังเย็นสบาย นั่งดูไปได้เพลินๆ เลยค่ะ

สำหรับครอบครัวที่จะพาเจ้าตัวเล็กขนาดน้องภูริไปเที่ยวด้วย อย่าลืมพกเสื้อหนาวหรือเสื้อแขนยาวเผื่อไปด้วยนะคะ ช่วงนี้อากาศเย็นสบายสำหรับเรา แต่อาจจะเย็นไปนิดนึงสำหรับเด็กเล็กๆ

เราอยู่ใน Disneyland Resort เที่ยวเล่นสนุกจนลืมเหนื่อย แต่ตอนเดินกลับมารอขึ้นรถบัสกลับโรงแรมนี่แทบจะหมดแรง >.<  จุดที่จอดรถกับประตูเข้าออก Disneyland Resort ไกลกันพอสมควรเลยค่ะ (เก็บแรงไว้เผื่อตอนเดินกลับออกมาด้วยนะคะ >.<) วันนี้ใช้พลังกันไปมากพอกลับถึงโรงแรม ทานอาหารค่ำ อาบน้ำเสร็จ เด็กๆ ก็สลบกันหมด ^^’พรุ่งนี้เราจะมีเวลาค่อนข้างเต็มวัน มีเครื่องเล่นสนุกๆ สำหรับวันที่สองอีกเพียบ รอตามอ่านตอนที่สองนะคะ :D

dash

อ่านตอนอื่นในทริปนี้ได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ

Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (2)
Fun Fun ฝันๆ ที่ Hong Kong Disneyland (3)

#hkdisneyland #100choicesoffun #thaiairasia #hongkongfanclub