ตั้งแต่ภูมิขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ของภูมิเกิดขึ้นจากการที่เราปล่อยให้ภูมิใช้เวลากับเรื่องที่สนใจอย่างเรื่อยๆ เปื่อยๆ หยิบๆ จับๆ เล่นไปเล่นมา โดยให้ความสนุกและความสนใจของเขานำไป ช่วงเวลาแบบนี้ ดูผิวเผินเหมือนไม่ได้ประโยชน์และไม่เกิดการเรียนรู้อะไร และบางครั้งอาจทำให้รู้สึกอึดอัด รู้สึกเสียเวลาจนอยากจะจับเขามาเข้าสู่ขบวนการการเรียนรู้ที่มีแบบแผนแบบที่เราคุ้นเคย (เพราะอยากเห็นผลเร็วและเราก็โตมากับวิธีแบบนี้)
แต่เราเลือกที่จะปล่อยตราบใดที่เขายังสนใจสิ่งตรงหน้าอย่างกระตือรือล้น เพราะเชื่อว่ามีการเรียนรู้บางอย่างเกิดในหัวของเขาแน่ๆ แม้ไม่ใช่เรื่องความรู้ทางวิชาการ หรืออย่างน้อยที่สุด ในหัวใจของเขาก็ได้สัมผัสความสุขกับการเดินตามความสนใจของตัวเอง
การปล่อยให้เขาได้ใช้เวลาและทดลองทำอะไรกับสิ่งที่สนใจอย่างอิสระจะกลายเป็นฐานที่มั่นคง หากเขาตัดสินใจเดินหน้าต่อ เพราะเขาได้ผ่าน ‘การสำรวจ’ ตัวเองและการสำรวจสิ่งนั้นว่าเขาสนใจหรือไม่ และถ้าเราปล่อยให้เขาได้ใช้เวลาอย่างอิสระนานพอ เวลาที่เราชวนคุยถึงเรื่องที่เขาสนใจอยู่ เรามักจะได้คำตอบที่สนุก (ไม่ใช่คำตอบที่ถูก) และได้รับสัญญาณความสนใจที่ชัดเจน
(สำหรับบ้านเรา) นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเรียนรู้ที่ดี
หลังจากนั้น ช่วงของ ‘การค้นหา’ ก็เริ่มขึ้น ถึงตอนนี้ เราต้องการความกว้างและความหลายหลายของความเป็นไปได้ต่างๆ ในเรื่องที่เขาสนใจ เป็นหน้าที่ของพ่อแม่บ้านเรียนอย่างเราที่จะมองหาวัตถุดิบต่างๆ มาชวนเขาเข้าไปค้นหา
ยิ่งได้เห็น ได้ลองทำมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยให้เขามีโอกาสค้นหาแง่มุมที่เขาอยากทำในเรื่องนั้นๆ ต่อ เช่น ในช่วงสำรวจ ภูมิบอกว่าเขาชอบเรื่องหุ่นยนต์ แต่ในเรื่องการพัฒนาหุ่นยนต์นี้ก็ยังสามารถแตกย่อยออกไปได้อีกหลายด้าน เช่น ด้านกลไก ด้านการเขียนโปรแกรม ด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ
ช่วงค้นหานี่แหละที่เขาจะค่อยๆ ลงมือทำไปทีละด้านๆ ได้ลองให้รู้ว่าตรงไหนที่เขาอยากรู้และชอบทำ เป็นช่วงที่ใช้เวลามาก เพราะต้องเรียนรู้หลายเรื่องในเวลาเดียวกัน
เราจะได้เห็นความแน่วแน่ของเขา ได้เห็นการใช้พลังทุกด้านที่เขามีก็ช่วงนี้ เป็นช่วงที่เขาผันความสนุกของเขามาเป็นผลงานที่เขาอยากเห็น ได้หาข้อมูลจริง ลองทำจริง และแก้ปัญหาจริง
เราจะได้รู้ว่าเขาชอบจริงๆ หรือไม่ก็ช่วงการค้นหานี้
ถ้าเขาอดทนมากพอและเราให้เขามีเวลาอยู่กับสิ่งนั้นนานพอ เขาจะค่อยๆ เข้าสู่ช่วง ‘ค้นพบ’ ช่วงที่ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นที่ละนิดๆ ให้เขามีกำลังเดินต่อ เขาจะเริ่มปะติดปะต่อภาพที่เคยกระจัดกระจายได้มากขึ้น จากที่ไม่เห็นอะไรเลย ก็ค่อยๆ เห็นสิ่งที่ทำเป็นรูปเป็นร่างชัดขึ้น
การค้นพบทีละเล็ก ทีละน้อยของเขาเป็นเหมือนเสาหลักที่เขาปักบอกทางและตำแหน่งของตัวเองตลอดเวลาที่เขาเดินทางสำรวจพื้นที่การเรียนรู้ของเขา เป็นหลักที่ช่วยให้เขาว่าเขากำลังทำอะไร และสามารถเดินกลับมาที่ตำแหน่งนั้นด้วยความมั่นใจ หากเขาเกิดหลงทาง
กระบวนการแบบนี้เป็นรูปแบบที่พ่อแม่อย่างเราไม่คุ้นเคย และต้องใช้เวลามาก ซึ่งต่างจากการเรียนในห้องเรียนแบบที่เราโตมา บรรยากาศแบบที่เมื่อครูเดินเข้ามาในห้องปุ๊บ ทุกอย่างต้องเหมือนเปิดสวิชท์ปั๊บ ฟังแล้วต้องค้นพบ(เข้าใจ)ทันทีโดยไม่ต้องให้เวลากับการสำรวจและค้นหา นึกเล่นๆ ดู นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมเรา (ส่วนใหญ่) ถึงลืมความรู้ที่เราจำติดตัวเข้าห้องสอบแทบทันทีหลังสอบเสร็จ เพราะเราไม่ได้เริ่มจากความสนใจ และไม่เคยปักหลักของเราเอง