สัปดาห์ก่อน น้องภูมิมุดเข้าไปเล่นให้ห้องเก็บของ เอาที่รองรีดผ้ามากางเป็นเคาน์เตอร์ เอาของเล่นมาวางๆ แล้วก็เล่นเป็นร้านขายขนม เล็กก็เล่นไปกับเขา จากร้านปุปะง่ายๆ ก็เริ่มมีชื่อร้าน มีชุดพนักงาน มีอุปกรณ์อื่นๆ ในร้าน น้องภูมิวาดป้ายร้าน เขียนเมนู และก็ทำเงินกระดาษขึ้นมา เพื่อใช้เล่นซื้อขายจริงๆ เล็กก็เลยคิดว่าร้านนี้น่าจะต้องการเครื่องคิดเงินแบบแคชเชียร์บ้างแล้วหล่ะ (เพื่อเพิ่มความสนุกให้คนขาย ^^)
พอเล็กถามน้องภูมิว่าต้องการเครื่องคิดเงินของแคชเชียร์แบบที่ในร้านขายของเขามีไม๊ น้องภูมิได้ยินก็กระโดดตัวลอย ส่งเสียงบอกเอาคร้าบ..บ… ^^
ปลุกปล้ำกันอยู่พักใหญ่เราก็ได้เครื่องคิดเงินหน้าตาอย่างนี้ค่ะ (จริงๆ ทำไม่ยากเลย ที่ยากคือต้องทำแบบมีน้องภูริอยู่นุงนังนัวเนียด้วยนี่อ่ะสิ >.<)
วัสดุหลักๆ ที่เราใช้วันนี้มีเพียง กล่องรองเท้า (แบบฝาติดกับตัวกล่อง) กล่องซีเรียลและก็กาว
เราเริ่มจากการหารูปแบบเครื่องคิดเงินจริงๆ ว่าต้องมีอะไรบ้าง จากนั้นก็ออกแบบว่าของเราจะมีอะไร ตรงไหน อย่างไร จากนั้นก็ลงมือทำ
เล็กเจาะช่องด้านข้างกล่องเพื่อทำเป็นลิ้นชักใส่เงิน (กระดาษที่เจาะเก็บไว้ปิดหน้าลิ้นชักเพื่อความสวยงาม) และใช้กล่องกระดาษซีเรียลมาตัดทำเป็นตัวลิ้นชักค่ะ
ด้านในลิ้นชัก เราทำเป็นที่เก็บเงิน โดยตัดกระดาษแข็งมาติดเป็นที่กั้นแบ่งเป็นช่องๆ เพื่อแยกเก็บแบงค์กระดาษ (ตามจำนวนเงิน)
น้องภูมิอยากให้มีก้านที่กดแบงค์เหมือนที่เขาเคยเห็นเครื่องคิดเงินของจริงที่ซุปเปอร์มาเก็ต เล็กก็เลยตัดกระดาษแข็งกว้างประมาณ 1 ซ.ม. ยาวประมาณ 15 ซ.ม. พับปลายด้านหนึ่งขนาดประมาณ 1 ซ.ม. พับ 3 ทบ แล้วทากาวติดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม (ตามภาพด้านล่าง) พับปลายอีกด้านหนึ่งขนาดประมาณ 1 ซ.ม. เพื่อเป็นส่วนที่ทากาวติดกับกล่อง
ลิ้นชักด้านในสุดเล็กติดกระดาษแข็งเพื่อรั้งตัวลิ้นชัก (A) ไว้ไม่ให้หลุดออกมาเวลาที่ดึงเล่น และด้านในก็ตัดกระดาษแข็งมาติดไว้เป็นตัวหยุด (B) ไม่ให้ลิ้นชักผลุบเข้าไปเวลาที่ดันกลับ
ส่วนฝากล่องเล็กยกให้เอียงลาด ด้วยการติดกระดาษอย่างนี้ค่ะ
ระหว่างที่เล็กประกอบส่วนหลักๆ น้องภูมิก็จะช่วยประกอบส่วนย่อยๆ และทำหน้าปัดปุ่มเครื่องคิดเงิน (ช่วยแม่ทำได้แล้ว :D)
น้องภูมิอยากให้มีช่องที่สลิปใบเสร็จออกมาด้วย เล็กเลยเจาะช่องเล็กๆ ด้านบนผากล่อง แล้วลองหาดูว่าจะใช้อะไรมาเป็นตัวตัดกระดาษได้บ้างที่ใช้เล่นได้และจะไม่บาดมือหนุ่มน้อย รื้อไปรื้อมาก็ได้แผงฟันแหลมๆ ของกล่องกระดาษฟอยด์ (ใช้ได้ดีกับกระดาษบางๆ นะคะ)
ส่วนกระดาษสลิป เล็กตัดกระดาษนิตยสารให้น้องภูมิเอามาต่อให้ยาวๆ แล้วม้วนติดกับหลอดกาแฟ จากนั้นใช้ตะเกียบไม้สอดเข้าไปในหลอดกาแฟแล้วนำไปเกี่ยวกับเชือกที่ติดไว้ในกล่อง
สอดกระดาษลอดตามช่องที่เจาะไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จค่ะ :D
แม่แถมที่ยิงบาร์โค้ดให้ด้วย พอดีที่บ้านมีแท่งกระดาษ (กันกระแทก) อยู่หนึ่งอัน ^^
เจ้าเครื่องคิดเงินนี้ช่วยให้เราเล่นกับร้านขายขนมของภูมิได้สนุกมากขึ้นจริงๆ ค่ะ แม้ว่าการคิดเงิน บวก ลบ ราคาของและจำนวนเงินที่ต้องทอนลูกค้า น้องภูมิก็ยังคงต้องใช้กระดาษทดเลขอยู่เหมือนเดิม ^^ แต่มันช่วยให้ร้านของเขามีอะไรๆ ให้เล่นออกท่าออกทางมากขึ้น แถมยังเป็นของเล่นที่เขาทำมันขึ้นมาได้เอง (กับแม่) น้องภูมิก็ดูจะมีความสุขและภูมิใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้นน้องภูมิถึงกับบอกว่า อยากจะเก็บร้านของเขาไว้ตลอดไป (ซอกในห้องเก็บของที่เขาใช้ทำเป็นร้านอยู่หน่ะค่ะ) งานนี้ท่าทางเราคงจะโดนยึดพื้นที่ยาว :D
* ร้านของน้องภูมิชื่อว่า “777” (มีที่มาจากถุงกระดาษร้าน TinTin Shop ที่เราเอามาทำเป็นถุงใส่ขนมตอนที่เริ่มเล่นกัน)
* ของที่ขายในร้านก็จะมีตั้งแต่ขนม เครื่องดื่มและอาหารเบาๆ มีทั้งแบบนั่งทานที่ร้านและส่งถึงบ้านด้วย ^^
* ที่ร้านจะมีหนังสือเอาไว้ให้เด็กๆ (น้องภูริ) ด้วยค่ะ “เด็กๆ จะได้ไม่ยุ่ง” เจ้าของร้านเขาบอกว่าอย่างงั้น >.<
* ลูกค้าจะได้รับบัตรสะสมแต้ม (ขนาดหย่าย..ย..มาก..ก..) เพื่อใช้สะสมทุกครั้งที่มาซื้อของที่ร้าน :D
* มีเมนูพิเศษเฉพาะวัน และโปรโมชั่น เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 3 ^^’