สติ๊กเกอร์เด็กดี (ใจ)

เล็กเคยได้ยินเรื่องการจูงใจทางบวกกับเด็กเล็กๆ ด้วยสติ๊กเกอร์มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเอามาใช้กับน้องภูมิสักที จนกระทั่งน้องภูมิเริ่มเข้าโรงเรียน (ช่วงซัมเมอร์ 1 เดือน) น้องภูมิมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลักษณะต่อต้าน แสดงความเป็นตัวของตัวเองด้วยการแสดงท่าทีขัดขืนแทบทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่ไม่น่าจะมีอะไรต้องขัดขืน -”- ทำเอาเล็กและคุณก๊อกมึนไปตามๆ กันแถมยังมีเรื่องกิน เรื่องนอน ที่เป็นปัญหาอีก น้องภูมิ 3 ขวบแล้ว แต่ยังไม่ค่อยจะยอมตักข้าวกินเองทั้งที่ตักได้ และก็เป็นเด็กที่นอนยากมาก (อันนี้เป็นมาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ -”-) ล่าสุดก่อนเข้าโรงเรียน เล็กก็ได้ถอดใจเรื่องนอนกลางวันไปเรียบร้อย แต่พอเข้าโรงเรียนน้องภูมิก็จะต้องโดนจับนอนกลางวันอีก คุณครูเล่าว่า มีหลายครั้งที่น้องภูมิไม่ยอมนอนและพยายามทำเสียงดัง เพื่อปลุกเพื่อนๆ ที่นอนอยู่ให้ขึ้นมาเล่นด้วย -”- บางวันคุณครูต้องจับแยกไปอยู่อีกห้องหนึ่งคนเดียว เวลาคุณครูเรียกมาล้อมวงอธิบายกิจกรรมน้องภูมิก็จะวิ่งหนีไปเล่นอย่างอื่น บางทีก็ทำเอาเพื่อนสมาธิแตกไปด้วย ข้าวกลางวันคุณครูก็ต้องช่วยป้อนเพราะถ้าให้ตักเองก็จะตักแค่ 2-3 คำ

พอหมดช่วงซัมเมอร์ โรงเรียนหยุด 1 เดือน เล็กตั้งใจว่าจะพยายามใช้เวลาช่วงนี้จัดระบบระเบียบลูกใหม่ตั้งแต่ที่บ้าน เพื่อช่วยให้เขาพร้อมกับการไปโรงเรียนมากขึ้น เล็กเริ่มจัดเวลานอนกลางวันอีกครั้ง ตามเวลาที่โรงเรียนเป๊ะๆ และเริ่มจริงจังกับการให้ตักอาหารกินเอง จับเวลามื้อละ 20 นาที ถ้าหมดเวลาก็จะเก็บอาหารเลย (อันนี้ต้องใจแข็งมากๆ T.T)จนวันหนึ่ง เราไปบ้านญาติกัน ที่บ้านนั้นเปิดการ์ตูนเรื่อง Toy Story ภาค 3 ดู น้องภูมิก็นั่งดูด้วย (เคยดูภาค 1) แต่ดูไปได้แค่ 10 นาที เล็กก็ต้องกลับ ต้องเรียกกันอยู่นานมากกว่าจะยอมลุกตามมา นั่งรถกลับบ้านก็พูดแต่ว่า “แม่คับภูมิอยากดู Toy Story” “แม่ซื้อให้ภูมิหน่อย” ตอนนั้นเล็กกับคุณก๊อกก็เลยพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส บอกลูกว่า ลูกต้องเป็นเด็กดี แล้วสะสมสติ๊กเกอร์เด็กดีให้ครบ 10 ดวง แล้วแม่จะซื้อให้ น้องภูมิตกลงทันที

เย็นนั้นเลยแวะไปหาสติ๊กเกอร์ แล้วก็กลับมาวาด Chart แบบง่ายๆ แล้วก็ระบายสีให้ดูน่าสนใจหน่อย ทำแบบสะสมไปได้ถึง 50 ดวงเลย (ครบ 50 จะได้ของที่อยากได้มากที่สุด) พร้อมกับอธิบายกติกา เมื่อน้องภูมิเป็นเด็กดีจะได้สติ๊กเกอร์ 1 ดวง สะสมไปจนครบ 10 ดวง แม่จะไปซื้อการ์ตูนเรื่อง Toy Story มาให้ดูตอนที่ทำ Chart น้องภูมิรู้แค่ว่า 10 ดวงได้อะไร และสิ่งที่น้องภูมิอยากได้มากๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือหุ่นยนต์ Buzz Lightyear เล็กก็เลยเก็บไว้เป็นรางวัลเมื่อครบ 50 ดวง (เพราะเป็นของที่อยากได้มาก จะได้ภูมิใจ) รางวัลของเราก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา แต่ทุกครั้งที่เขาได้รางวัล แม้เป็นเพียงไอศครีมถ้วยเดียวเขาก็จะดีใจมาก.ก.ก.ก…

น้องภูมิเข้าใจกติกาและทำตามได้เป็นอย่างดี ดวงที่ 1-10 ใช้เวลาเพียงแต่ 3 วัน ก็ครบ
เรื่องหลักๆ ที่จะทำให้ได้สติ๊กเกอร์ คือเรื่องกินกับเรื่องนอน เมื่อถึงเวลานอนไม่ว่าจะนอนกลางวันกลางคืน น้องภูมินอนหลับง่าย ไม่เล่น ไม่คุย เล็กจะให้ 1 ดวง, ทุกมื้ออาหารตักกินเองได้หมดในเวลา 20 นาที (สอนให้ดูนาฬิกาไปด้วย) ก็จะได้อีก 1 ดวง และเรื่องอื่นๆ ที่ดูแล้วน่าจะเอาสติ๊กเกอร์มาช่วยได้เล็กก็จะเอามาใช้เมื่อเราสะสมกันไปได้จนเกือบถึง 20 ดวง ก็เริ่มจะเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น น้องภูมิกินข้าวได้เองเกือบทุกมื้อ นอนง่ายขึ้น ซึ่ง 2 เรื่องนี้ เมื่อเริ่มเข้าที่แล้ว เล็กก็จะพยายามไม่ใช้สติ๊กเกอร์เป็นแรงจูงใจอีก เพราะมันเป็นเรื่องที่เขาต้องทำอยู่แล้ว (ไม่ว่าจะได้สติ๊กเกอร์หรือไม่ เพราะเป็นความรับผิดชอบต่อตัวเอง) ตอนนี้น้องภูมิสะสมสติ๊กเกอร์มาได้ 40 ดวงแล้ว เล็กเริ่มลดการให้สติ๊กเกอร์ลง เปลี่ยนเป็นคำชม กอด สลับไปบ้าง

เพราะเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว เราไม่ต้องการปลูกฝังให้ลูกจดจำว่า การทำสิ่งที่ดีๆ จะต้องได้สิ่งตอบแทนทุกครั้งไป

21 thoughts on “สติ๊กเกอร์เด็กดี (ใจ)

  1. วิธีนี้เจ๋งไปเลยค่ะแม่เล็ก…
    อ๊อบขอแอบนำไปใช้กับเจ้าตัวดีที่บ้านบ้างเน้อ

    1. ติดตามอ่านวิธีการเลี้ยงลูกพี่เล็กเสมอๆ ไว้มีเองจะเอาไป Apply ใช้บ้าง ชอบมากๆเลยค่ะพี่ :)

      1. รีบมีได้แล้วเปิ้ล เดี๋ยวไอ้ที่ดูๆ จำๆ ไว้ จะลืมหมดซะก่อน ^^

  2. ชื่นชมแม่เล็กมากเลยค่ะ. เพิ่งเข้ามาเจอได้ไม่นานขอแอบเอากิจกรรมดีๆไปใช้กับลูกนะค่ะ
    แต่จริงๆแล้วหน่อยไม่ได้เพิ่งรู้จักคุณเล็กนะรู้จักตั้งนานแล้วเห็นออกรายการเกี่ยวกับการใช้วิธีสองภาาษาตั้งแต่น้องภูมิคลานเล่นซ่อนหากับคุณพ่อค่ะ
    น่ารักดีทั้งครอบครัวเลย
    เมื่อวันอาทิตย์ก็เห็นที่นัดชุมนุมลูกหมูสามตัวด้วย
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

    1. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณหน่อย
      ถ้าคราวหน้า มีโอกาสเจอกันแนะนำตัวด้วยนะคะ :)

  3. วิธีให้ดาวหรือสติกเกอร์ของคุณเล็ก ไม่ธรรมดา ทั้งๆที่เป็นวิธีที่รู้ๆกัน เก๋ก็เพิ่งจะเอามาใช้ แต่เห็นของคุณเล็กถึงกะอึ้ง เพราะมันน่ารักมากกกกก มันดูมีเป้าหมายสำหรับเด็กตัวเล็กๆได้แบบง่ายๆดีค่ะ

    1. มันบังเอิญมากค่ะคุณเก๋ ทีแรกเล็กว่าจะไปซื้อสติ๊กเกอร์แผ่นใหญ่ๆ เอามาเจาะเอง เป็นรูปดาว (ที่บ้านมีที่เจาะค่ะ) แต่วันนั้นเดินในห้างอยู่ชั้น 2 ถ้าจะซื้อสติ๊กเกอร์แผ่นๆ ต้องฝ่าฝูงชนขึ้นไปชั้น 5 ด้วยความขี้เกียจเล็กเลยหาซื้อเอาแถวๆ ตรงที่เดินอยู่

      มองหาแบบที่ดูน่าสนใจ ราคาไม่แพง ก็ได้รูปยานพาหนะชุดนี้มา ดูเป็นเด็กผู้ชายดี พอกลับมาบ้านก็เลยวาดให้เป็นรูปถนนจะได้เข้ากับสติ๊กเกอร์

      ใช้เป็นแบบที่เป็นรูปๆ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะเล็กว่า เพราะเวลาที่ลูกทำดีได้สติ๊กเกอร์ เล็กก็จะให้เขาได้เลือกเองด้วยว่าจะเอารูปอะไร ตอนได้เลือกเองนี่ก็ถือเป็นรางวัลอย่างหนึ่งเลยค่ะ ^_^

  4. อืม… แบบนี้นี้เอง
    ขอบคุณสำหรับข้อมูล

    ไว้จะส่งเรื่องของปุ๊กหลังไมล์ไปให้ฟังนะคะ

  5. วิธีการ และ สติกเกอร์น่ารักมากเลยค่ะ อยากได้ (คุณแม่อยากได้เองนะคะ อิอิ)
    ขออนุญาติเอาไปใช้กับเจ้าตัวยุ่งบ้างนะคะ อีกเดือนนึงจะ 2 ขวบแล้ว อาการ terrible two เต็มขั้นค่ะ หวังว่าวิธี token economy แบบนี้จะช่วยได้บ้างเนอะ

  6. น่ารักมากๆ เลย ขอเอาไปใช้บ้างนะคะพี่เล็ก

  7. Totally agreed with your last paragraph ka, Khun Lek. Kids should feel to do the good deeds for the sake of doing good deeds, and not just for earning some rewards.

    Many researchers have found out that rewards have no long-term effect on behavior. The problem with rewards is that they do produce short-term change. But as children grow older and more sophisticated, rewards begin to create new problems — they teach that motivation comes from outside oneself, not from within (just what you’re concerned about.) :)

    1. เพิ่งได้เห็นคอมเมนท์คุณเก๋นะคะ (คุณก๊อกบอกมันเข้าไปอยู่ใน spam – ได้ไงไม่รู้เลย -“-)

      ประเด็นที่คุณเก๋พูดถึงนี่เป็นคุณก๊อกเลยค่ะ ที่กังวล และสะกิดบอกเล็กว่าการให้แบบนี้ไปเรื่อยๆ
      อาจจะทำให้เด็กๆ เข้าใจผิด และกลายเป็นเรานี่แหละที่ปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ให้ลูก ข้อความของคุณเก๋ ช่วยให้เราชัดเจนมากขึ้นเลยค่ะ ว่าเราคิดถูกแล้ว ขอบคุณนะคะ :)

  8. ได้ไอเดียใหม่ ขอแชร์ไปใช้กับลูกหน่อยนะค่ะพี่
    ขอบคุณค่ะ

Leave a reply to kayfinedays Cancel reply